วันนี้ (29 พ.ย.2565) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำถึงไทม์ไลน์การยื่นญัตติขออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ช่วงวันที่ 16-17 พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้อภิปรายช่วงกลางเดือน ธ.ค. โดยยอมรับว่า กังวลอยู่บ้างว่าอาจไม่ได้นับความสนใจจากประชาชน เพราะเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ โดยประเด็นการอภิปรายเป็นกรอบ 12 นโยบายเร่งของรัฐบาลที่ครอบคลุมการอภิปรายทุกมิติ รวมถึงเรื่องบ่อนการพนันและยาเสพติด
และเมื่อประเมินจากสถานการณ์การเมืองหากไม่ยื่นตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ หากมีการยุบสภาหลังการประชุมเอเปคจะทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้อภิปราย โดยเฉพาะที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะมีการยุบสภา 24 ธ.ค. แต่ทั้งนี้อำนาจการยุบสภาก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่เมื่อประมวลเหตุการณ์ทางการเมืองเชื่อว่า อาจจะมีการยุบสภาก่อนที่รัฐบาลจะครบวาระ ซึ่งมั่นใจ 80-90%
ผู้นำฝ่ายค้าน ยังกล่าวถึงเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจยุบสภา คือ รัฐบาลได้รับประโยชน์สูงสุดทางการเมือง ที่หมายถึงเมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งรัฐบาลจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จากมาตรการของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ที่ตอนนี้มีการเร่งขึ้นทะเบียนบัตรคนจน 13 ล้านคน
นายแพทย์ชลน่าน เปิดเผยว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบปมการบริจาคเงินของพรรคพลังประชารัฐ แต่การรับบริจาคเงินมีกำหนดไว้ตามกฎหมายพรรคการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละพรรคต้องปฏิบัติตาม โดยชี้ว่ามีกฎหมายหลายมาตรามาอ้างอิงการบริจาคเงินได้ ขณะเดียวกันเงินบริจาคก็มีข้อกฎหมายที่อ้างอิงได้ว่าไม่ใช่เงินบริจาค ซึ่งพรรคเพื่อไทยระมัดระวังอย่างมาก
และยอมรับว่ามาตรการบังคับใช้กฎหมายของประเทศยังอ่อนด้อย เช่น การบริจาคเงินของพรรคการเมือง ผู้บริจาคเป็นใคร และเงินที่มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เช่น การบริจาค 10 ล้านแทนที่จะตีเป็นเงินบริจาคก็เป็นเงินอย่างอื่นไป แม้กฎหมายปัจจุบันมีช่องให้ร้อง แต่เพื่อไทยไม่เห็นด้วยช่องทางการร้องยุบพรรค 13 ช่องทางตามกฎหมายปัจจุบัน โดยได้เสนอเหตุยุบพรรคเพียงเหตุเดียว คือ การล้มล้างการปกครองฯ เท่านั้น
สำหรับจุดยืนพรรคเพื่อไทยต่อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่จะเข้าวาระ 2-3 ในสมัยประชุมหน้านั้น ด้วยทราบมาว่าไม่มีการปรับแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไร และจุดยืนคือ สนับสนุนใช้ทางการแพทย์เท่านั้นไม่ได้สนับสนุนกัญชาเสรี หรือสันทนาการ แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีความหละหลวมต่อการควบคุมกัญชาเสรี หากไม่มีการปรับแก้ ในวาระ 2 เพื่อไทยเสนอแก้รายมาตรา แต่หากแก้ไม่ได้ แล้วผู้เสนอดันทุรังเดินหน้า เพื่อไทยจะมีมติในทางตรงกันข้าม
ส่วน ร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิต พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและสนับสนุนร่างของกรรมาธิการอย่างเต็มที่ และไม่เห็นด้วยในการคว่ำร่างฯ เพราะต้องเปิดช่องให้ประชาชนได้มีช่องทางทำมาหากินได้มากขึ้น