วันนี้ (5 พ.ย.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับบริจาคอวัยวะประกอบด้วย ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง จากผู้ป่วยชายชาวเมียนมา อายุ 43 ปี ที่เข้ามาทำงานรับจ้างในไทยโดยถูกกฎหมาย แล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนอาการสาหัส ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะสมองตาย
ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลได้ติดตามอาการและเจรจาขอรับบริจาคอวัยวะกับแม่และน้องสาวของผู้ป่วยผ่านเพื่อนร่วมงานที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ซึ่งแม่และน้องสาวได้ตัดสินใจบริจาค และเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ต่างเห็นด้วย เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยได้ทำความดี สร้างกุศลเป็นครั้งสุดท้ายหลังเสียชีวิต ทีมจัดเก็บอวัยวะของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จึงผ่าตัดนำอวัยวะดังกล่าวส่งให้กับสภากาชาดไทย โดยสายการบินนกแอร์
ขอยกย่องการตัดสินใจของครอบครัวที่ให้ผู้ป่วยได้ทำความดีด้วยการบริจาคอวัยวะ นำไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป
นพ.โอภาส กล่าวว่า นอกจากการเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมบริจาคอวัยวะแล้ว การสื่อสารการทำความเข้าใจกับญาติของผู้ป่วยที่มีภาวะสมองตาย ไม่ว่าก่อนหน้านี้ผู้ป่วยจะแสดงความประสงค์บริจาคอวัยวะมาแล้วหรือไม่ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้เกิดการยินยอมให้บริจาคอวัยวะ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นต่อไป จึงขอให้โรงพยาบาลแต่ละแห่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารทำความเข้าใจกับญาติผู้ป่วยด้วย
สำหรับจำนวนผู้บริจาคอวัยวะที่มีภาวะสมองตายในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข มีประมาณ 200 กว่าคนต่อปี โดยปี 2560 จำนวน 254 คน, ปี 2562 จำนวน 233 คน, ปี 2562 จำนวน 257 คน, ปี 2563 จำนวน 285 คน, ปี 2564 จำนวน 202 คน และปี 2565 จำนวน 226 คน ส่วนผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะในปีงบประมาณ 2565 มี 577 คน แบ่งเป็นการปลูกถ่ายไต 455 คน ปลูกถ่ายตับ 84 คน ปลูกถ่ายหัวใจ 30 คน ปลูกถ่ายตับอ่อน 1 คน ปลูกถ่ายไตพร้อมตับอ่อน 1 คน ปลูกถ่ายไตพร้อมตับ 4 คน และปลูกถ่ายไตหร้อมหัวใจ 2 คน
ทั้งนี้ สธ.ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายอวัยวะ โดยบรรจุเป็นสาขาหนึ่งในแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) และมีนโยบายจัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะและศูนย์ผ่าตัดปลูกถ่ายไตในทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงบริการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทย สร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ และรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชน ร่วมบริจาคดวงตาและอวัยวะ ซึ่งจะนำไปปลูกถ่ายช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกถึง 8 ชีวิต เป็นการให้ชีวิตใหม่แก่เพื่อนมนุษย์หลังเสียชีวิตจากภาวะสมองตาย