ผอ.นิด้าโพล ชี้รัฐบาลเจ้าภาพจัดเอเปคช่วยเสริมภาพลักษณ์ แต่ไม่ใช่ผลงานเพิ่มคะแนนนิยม

ตลอดสัปดาห์นี้ เรียกว่า ทุกฝ่ายต้องมุ่งสู่การเจ้าภาพที่ดี ในการจัดประชุมเอเปค 2022 ซึ่งนอกจากจะเป็นวาระสำคัญของบ้านเมืองแล้ว ยังเป็นเงื่อนไขหลักในทางการเมือง ด้วยเชื่อว่า ความสำเร็จ ความเรียบร้อย และราบรื่น คือผลงานชิ้นโบแดงไปด้วย

แต่สำหรับมุมมองของนักทำโพลชี้ว่า เป็นเพียงการสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่ดี ของประเทศและรัฐบาล ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล หรือนายกฯ และไม่สามารถเป็นดัชนีชี้วัดคะแนนนิยมได้ โดยตลอดทั้งปี 2565 นี้ "นิด้าโพล" จัดทำผลสำรวจ "คนที่ใช่..พรรคที่ชอบ" ทั้ง 4 ไตรมาส

ผลสำรวจไตรมาสสุดท้ายจะเผยแพร่ในเดือน ธ.ค.นี้ และปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลสำรวจที่ผ่านมา ยึดติดอยู่กับ 2 - 3 ขั้วการเมือง จึงทำให้หน้ากระดานแสดงผล แคนดิเดตนายกฯ คือ แพทองธาร ชินวัตร, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยส่วนหนึ่งยังไม่ตัดสินใจเลือก 

ถ้าประมวลรวมแล้ว นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ชี้ว่า นายกฯจะชิงยุบสภาฯเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง และถ้าจะให้คาดการณ์ก็น่าจะยุบสภาในเร็ว ๆ นี้

หากทอดเวลาออกไปจะยิ่งทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลง เว้นแต่นายกฯจะมีวิธีการกดคะแนนฝ่ายตรงข้ามไว้ได้

ยุบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นคะแนนจะไม่สูสี อีกพรรคจะเริ่มวิ่งไปได้เรื่อย ๆ ในมุมมองผม ปลาย ธ.ค.หรือ ต้น ม.ค.ก็สมควรยุบได้แล้ว เพื่อจัดการเลือกตั้ง วันนี้เพิ่งกลางเดือนกว่าจะถึง ธ.ค.เหลือเวลาอีก 1 เดือนครึ่ง กว่าจะยุบสภาฯ ตีไป 2 เดือน 2 เดือนคะแนนนิยมไม่รู้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า หรือ พรรครัฐบาล มีกลยุทธกดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้ามีก็ลองดู ถ้าไม่มี มีปัญหาแน่

นายสุวิชา กล่าวว่า ถ้าประเมินจากคะแนนนิยม ก็ต้องยอมรับว่า ขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมีคะแนนที่สูงกว่า รัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะแนวโน้มชัยชนะแบบแลนด์สไลด์

ส่วนข้อสังเกตที่พรรคภูมิใจไทย เติบโตรวดเร็ว แต่กลับไม่มี "ชื่อ" ติดอันดับผลสำรวจนั้น "ผอ.นิด้าโพล" ระบุว่า "ตัวบุคคลและนโยบาย" ไม่ใช่เหตุ แต่ผลนั้น เกิดจากเล่นการเมืองที่ไม่โดดเด่นหรือช่วงชิง

ประเด็นกัญชา อาจส่งผลสำหรับการเลือกตั้งบ้างในบางเขต เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ผมไม่คิดว่า ประเด็นกัญชาจะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้พรรคของคุณอนุทินเติบโตหรือหดลง

ตลอดการทำผลสำรวจคะแนนนิยมทางการการเมือง ผอ.นิด้าโพล เปิดเผยว่า พฤติกรรมการเลือก ผู้แทนฯ จะยึดติดกับตัวบุคคล ส่วนนโยบายและพรรคจะเป็นองค์ประกอบการตัดสินใจ เว้นแต่จะครบ 3 องค์ประกอบ จะเรียกแคนดิเดตนั้น ๆ ว่า "ลอยลำ"

ไม่ว่าระบบเลือกตั้ง จะบัตรใบเดียวหรือ 2 ใบ การตัดสินใจเลือก ร้อยละ 80 จะไปทางเดียวกัน ร้อยละ 20 จะเลือกแยก ระหว่างผู้แทนฯ กับพรรคการเมือง และ "การเมือง" ไม่ว่าจะโดยข้อเท็จจริง หรือผลสำรวจย่อมมีปัจจัยแทรกซ้อน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วทั้งสิ้น