ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ลีซอ" ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 37 ปี เล่นให้โปลิศเทโรนัดสุดท้าย

กีฬา
27 พ.ย. 65
19:21
564
Logo Thai PBS
"ลีซอ" ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 37 ปี เล่นให้โปลิศเทโรนัดสุดท้าย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ประกาศแขวนสตั๊ด ในวัย 37 ปี โดยลงสนามในเกมไทยลีก ที่ โปลิศ เทโร เปิดบ้านพบกับ นครราชสีมา เป็นนัดสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการ

ในเกมไทยลีก วันนี้ (27 พ.ย.2565) โปลิศ เทโร เปิดบ้านพบกับ นครราชสีมา เอฟซี ในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการของ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย หลังจากเจ้าตัวประกาศผ่าน เฟซบุ๊กว่า ขอตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในวัย 37 ปี

ชื่อของ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย เป็นที่รู้จักของวงการฟุตบอลไทย มาตั้งแต่สมัยเล่นฟุตบอลนักเรียนกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ก่อนโด่งดังสุดขีดสมัยไปเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ และติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ มาตั้งแต่อายุ 14 ปี และสามารถพาทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน รวมถึงยังเป็น 1 ในขุนพลเยาวชน 17 ปี ชุดชิงแชมป์โลก ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 1999 ด้วย

ส่วนผลงานกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ลีซอ ติดทีมชาติ มา 52 นัด ยิงไป 16 ประตู ซึ่งหนึ่งในประตูแห่งความทรงจำคงหนีไม่พ้นการยิงไกลสุดสวยใส่ทีมชาติญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชียปี 2010 ก่อนจะแพ้ไปในนัดนั้น 1-4 และประตูยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนมาทัวร์เมืองไทยในปี 2013

ส่วนผลงานระดับสโมสร ลีซอ ถือเป็นนักเตะที่ถือว่าประสบความสำเร็จ และมีประสบการณ์มาก เป็นเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย เคยเล่นให้กับ บีอีซี เทโร ศาสน, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส, เพื่อนตำรวจ, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี และโปลิศ เทโร เป็น สโมสรสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอล ยิงประตูในไทยลีกไป 95 ประตู นอกจากนี้ ยังเคยออกไปเล่นลีกต่างประเทศให้กับสโมสรในลีกเบลเยียมด้วย

ด้วยผลงานและบุคลิกที่โดดเด่นทำให้ลีซอกลายเป็นที่รู้จักทั้งในวงการกีฬาและวงการบันเทิง มีทั้งงานโฆษณา ถ่ายแบบ มากมาย โดยปัจจุบันยังรับงานเป็นพิธีกร และยูทูบเบอร์อีกด้วย และคาดว่าหลังจากแขวนสตั๊ดลีซอก็จะหันไปลุยกับงานในวงการบันเทิงเต็มตัว แต่ก็ยังเป็นในแง่มุมของกีฬาเช่นเดิม และไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะได้เห็นลีซอกลับมาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแบบที่เจ้าตัวเคยประกาศไว้ก็เป็นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง