วันนี้ (29 พ.ย.2565) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุยังไม่ตัดสินใจเส้นทางการเมือง ไม่ได้มองกติกา แต่รอดูทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนตัวยังคงเป็นสมาชิกพรรค แต่พรรคยังไม่ได้มาพูดคุยด้วย จึงยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น
ส่วนปัญหาบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ลาออกไปทำงานกับพรรคการเมืองอื่น นายอภิสิทธิ์ มองว่า เป็นธรรมดา แต่เป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคที่ต้องไปดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ ส่วนปัจจัยที่ทำให้หลายคนไปจากประชาธิปัตย์ก็มีหลากหลาย พร้อมยอมรับมีหลายคนโทรศัพท์มาลา และอธิบายเหตุผลความคิดว่ามีเรื่องของข้อจำกัด
สำหรับการไปรับประทานอาหารร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีอะไรนอกจาก นายอนุทิน ยังติดเลี้ยงอาหาร 1 มื้อ ซึ่งเคยเลี้ยงนายอนุทินเมื่อ 4-5 ปีก่อน ไปพบกันที่งานศพพี่ชายของ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงคุยและนัดรับประทานอาหาร ซึ่งการนัดพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการเมืองไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ไม่มีนัยยะอะไร และนายอนุทิน ไม่ได้จีบหรือทาบทามให้ไปร่วมงานทางการเมือง เพราะนายอนุทินทราบดีว่าตนคิดยังไง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกฎกติกาทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป กับอนาคตทางการเมืองว่า ขณะนี้ทุกคนกำลังรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่ากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.จะออกมาเป็นอย่างไร เพราะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ไม่ครบถ้วน ขัดแย้งกันเองกับกฎหมายหลัก ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยทางออกให้ชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่หลายคนประเมินสถานการณ์เลวร้าย ถึงขั้นออกมาชุมนุมเรียกร้องอีกนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้น เพราะทุกอย่างยังเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกินปีหน้าอย่างแน่นอน ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรนำไปสู่ความขัดแย้ง
ทั้งนี้ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะย้ายไปทำงานทางการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรี และเป็นเรื่องของท่านที่จะตัดสินใจวางอนาคตทางการเมือง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ปลัด มท.เผย "อนุพงษ์" ลงนามแปลงสัญชาติ "ตู้ห่าว" ทำตามขั้นตอน