วันนี้ (1 ธ.ค.2565) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีการเข้าตรวจค้นเครื่องบินส่วนตัว ของนายตู้ห่าวเมื่อวานนี้ มีการเก็บดีเอ็นเอ ลายพิมพ์ฝ่ามือ นิ้วมือสิบนิ้ว และได้เอาสุนัขตำรวจตรวจสารเสพติด และได้พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมบางอย่าง แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ใช้ในการทำสำนวนคดีอย่างละเอียด
ส่วนการตรวจสอบเครื่องบินเจ็ต เมื่อวานที่ผ่านมา ขณะนี้ทรัพย์ถูกอายัดและอยู่ในความดูแลของ ป.ป.ส.เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ผลการเก็บพยานหลักฐานทั้งภายนอกและภายในเครื่องบินไม่ว่าจะเป็นวัตถุพยานที่อยู่ในเครื่องบินการตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เก็บรอยนิ้วมือของบุคคล รวมถึงใช้สุนัขดมกลิ่น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจวิเคราะห์ข้อมูล
สุนัขดมกลิ่นภายในเครื่องบินเจ็ตเจออะไรบางอย่าง แต่บอกไม่ได้ ซึ่งได้รวบรวมทุกอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์ตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันผลอย่างเป็นทางการ ประกอบสำนวนคดี
รวมถึงการตรวจค้นเป้าหมายอีก 4 จุด เมื่อวานนี้ สามารถยึดทรัพย์สินไปได้กว่า 4,000 ล้านบาท รวมแล้วขณะนี้ได้ยึดทรัพย์สินของนายตู้ห่าวไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท
ทรัพย์สินส่วนใหญ่เช่น รถ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ แต่ยังไม่พบเงินสด จึงต้องเร่งขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม โดยทรัพย์สินที่ยึดได้ก็จะส่งให้ ป.ป.ส. อายัดต่อไป ส่วนกรณีนางพัชรินทร์ ที่นายชูวิทย์ ได้ส่งข้อมูลให้โดยระบุว่าเป็นภรรยาอีก 1 คนของนายตู้ห่าวนั้น เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นบ้านพักด้วยเช่นกัน แต่ตัวนางพัชรินทร์ไม่อยู่ ตอนนี้กำลังออกหมายเรียกให้มาชี้แจงทรัพย์สิน
ซึ่งความคืบหน้าของคดีตอนนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า คืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งจะต้องรวบรวมการสอบสวนให้เสร็จสิ้นทั้งหมดภายใน 3 สัปดาห์ ขณะนี้ได้จับกุม ผู้ต้องหาไปแล้ว 102 คน รวมถึงผู้ต้องหารายใหญ่ 4 คน ยกเว้นนายหมิง นายทุนใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีไปยังต่างประเทศ ส่วนนายโทนี่ หนึ่งใน 5 นายทุนจีนสีเทา ถูกตำรวจควบคุมตัวได้แล้วเมื่อวานนี้ ฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ได้ยื่นขอประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านเนื่องจากเป็นคดี ลหุโทษ
นอกจากนี้ รอง ผบ.ตร. ยังระบุว่า ปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มนายทุนจีนสีเทาของตำรวจไทยนั้น ผ่านการประสานงานเพื่อรับทราบร่วมกันกับทางอุปทูตจีน ด้วย ซึ่งรัฐบาลจีนก็มีความต้องการที่จะปราบปรามกลุ่มคนเหล่านี้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า มีกำหนดประชุมคณะทำงานร่วมกัน เพื่อสรุปความคืบหน้าทางคดีร่วมกัน ซึ่งจะมีทั้งพนักงานอัยการ และ ป.ป.ส. และ ปปง.
ปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มทุนจีนสีเทาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา รอง ผบ.ตร. ระบุว่า จุดเริ่มต้นจองการกวาดล้างทุนจีนสีเทา คือ เริ่มจากเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนเสพยาเสพติดภายในผับย่านห้วยขวาง และเสียชีวิตด้วยสาเหตุเสพยาเกินขนาด แต่ผ่านไปเป็นเดือน คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งคดีอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจนครบาลสุทธิสารเป็นเหตุให้ อุปทูตจีนเข้าสอบถามข้อมูล ทางคดีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อตรวจสอบพบว่า เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีการใช้ในสถานบันเทิง ที่เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มคนจีน
การสืบสวนจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการตามรอยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน และสถานบันเทิงที่มีการใช้ยาเสพติด นั่นเอง
ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มอบเอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และข้อมูลเกี่ยวข้องกับกลุ่มนอมินี พร้อมเผยว่า ข้อมูลที่นำมามอบให้ สามารถบ่งชี้ว่านายตู้ห่าวมีความสัมพันธ์กับบุคคลใดบ้าง ยืนยันว่าที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูลไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง เพียงแค่ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีคนจีนอย่างถึงที่สุด
ทั้งนี้ยังอยากให้ช่วยตรวจสอบการถือสัญชาติของนายตู้ห่าว กับสถานทูตจีน เนื่องจากทราบว่าทางการจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เป็นคนจีนถือสัญชาติอื่นด้วย