วันนี้ (13 ธ.ค.2565) พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า การทุจริตสอบนายสิบในภาค 9 จับได้ตั้งแต่ต้น โดยพบผู้เข้าสอบพกโพยคำตอบเข้าห้องสอบ ซึ่งจัดสอบในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นยังพบการจ่ายเงินให้บุคคลหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งผู้เข้าสอบคนนี้ถูกปรับตกแล้ว
ทั้งนี้ การตรวจสอบ “ผลสอบ” ทั้งหมด พบกรณีที่ผิดปกติและสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ในกระดาษคำตอบไม่มีการทดเลข แต่กลับได้คะแนนสูง จึงจัดให้สอบใหม่ ประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่ทำข้อสอบไม่ได้เหมือนครั้งแรก ส่วนการทุจริตสอบนายสิบในภาค 9 จะเชื่อมโยงกับการสอบตำรวจสายอำนวยการ ในเดือน พ.ย.หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
"มานะ" ห่วงมีโอกาสพบตำรวจทุจริตตั้งแต่ระดับล่าง
ด้านเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เห็นว่า การสอบตำรวจมีช่องทางทุจริตมาก เช่น การซื้อขายข้อสอบกับสถาบันกวดวิชา และ การติดต่อเพื่อหาเส้นสายในการเข้าเป็นตำรวจ ซึ่งการโกงจะไม่เกิดขึ้น หากระดับผู้นำไม่มีส่วนรับรู้กับขบวนการนี้
เปิดเส้นทางอาชีพและรายได้ตำรวจ
สำหรับช่องทางการเป็นตำรวจ เช่น สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ก่อนแยกเหล่าเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือ สอบเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ก่อนใช้สิทธิสอบเข้านักเรียนเตรียมทหารในส่วนของ ตร. หรือสอบเข้าโรงเรียนนายสิบตำรวจ ซึ่งจะมีศูนย์ในแต่ละภาครวม 9 ภาค และส่วนกลางอีก 1 แห่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรับสมัคร ส่วนใหญ่เป็น วุฒิ ป.ตรี สาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐศาสตร์ หรือ นิติศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งเปิดรับไม่บ่อยนัก และยังเปิดรับเฉพาะสาขาอาชีพที่ต้องการและขาดแคลน.
กรณีนายสิบตำรวจรอบปี 2564 ตามประกาศของ ตร. รับ 6,599 อัตรา สมัครสอบปลายปี 64 และสอบต้นปี 65 ยกตัวอย่างเช่น บช.น. รับ 729 อัตรา รับจำนวนกลางๆ แต่การแข่งขันสูงเพราะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ รับมากสุดคือ ภาค 1 รับ 870 อัตรา การแข่งขันไม่มาก ภาค 5 โซนภาคเหนือตอนบน 700 อัตรา ภาค 9 โซนภาคใต้ 390 อัตรา ถือว่ารับน้อย-การแข่งขันสูง โดยรับสมัครผู้ชาย ส่วนใหญ่ใช้วุฒิ ม.6 หรือ ปวช. อายุ 18 -27 ปี เป็นต้น
นายสิบ เรียนและฝึก 1 ปี 6 เดือน เรียนจบมียศ สิบตำรวจตรี โดยเส้นทางในระดับชั้นประทวนมี 5 ลำดับ ขยับเป็น สิบตำรวจโท, สิบตำรวจเอก จากนั้นคือ ยศจ่าสิบตำรวจ และสุดท้ายคือ ดาบตำรวจ
ในทางปฏิบัตินายสิบตำรวจ สามารถสอบระหว่างทางเพื่อเลื่อนยศเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้ แต่ถ้าเดินตามเส้นทาง เมื่ออายุ 53 ปี ในยศ “ดาบตำรวจ” จะมีกระบวนการอบรมและเลื่อนชั้นยศเป็น ร้อยตำรวจตรี ซึ่งยศสูงสุดที่อาจได้รับในวันเกษียณคือ ร้อยตำรวจเอก เท่านั้น
นายสิบ เป็นตำรวจที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด พบในกลุ่มงานจราจร, สายตรวจ, สืบสวน, ปราบปราม, ฝ่ายอำนวยการ เป็นต้น อีกด้านหนึ่ง ที่ผ่านมาตำรวจที่เติบโตจากยศนายสิบ แต่สอบเลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตร และเติบโตในตำแหน่งถึงขั้น พล.ต.ท.และ พล.ต.อ.ก็มีไม่น้อย
ขณะที่รายได้ “นายสิบ” ซึ่งเป็นชั้นประทวน ในทางปฏิบัติมีรายรับแยกย่อยตามสายงาน เช่น ปราบปราม สายอำนวยการ เป็นต้น ยกตัวอย่าง เช่น นักเรียนนายสิบ จบใหม่บรรจุครั้งแรก จะได้รับเงินเดือนตามขั้น 10,760 บาท ถ้ารวมเงินประจำตำแหน่ง ค่าครองชีพ และเงินตามสิทธิอื่น ๆ จะมีรายรับรวม ประมาณ 15,000 บาท รายรับจากเพิ่มขึ้นตาม “ขั้น” เหมือนราชการทั่วไป กรณีที่เติบโตช้าที่สุด เมื่ออายุราชการ 30 ปี อาจได้เงินบำนาญ ประมาณ 33,000 บาท
ทั้งนี้ ขั้นเงินเดือน ตำรวจจะเลื่อนขั้นเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง หรือที่เรียว่า “การได้ 2 ขั้น” คือ ผู้ที่ตั้งใจทำงาน มีผลการปฏิบัติดี แต่ยกเว้นกรณีผู้ที่ถูกลงโทษผิดวินัยตำรวจ อีกด้านหนึ่งเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นตาม “ชั้นยศ”