วันนี้ (15 ธ.ค.2565) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงข่าวความคืบหน้าคดีผับจินหลิง โดยระบุว่า ที่ผ่านมาตำรวจชุดจับกุม รวมถึงพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันว่าการตรวจค้นในวันที่ 26 ต.ค.2565 พบทั้งของกลางเป็นยาเสพติด และผู้กระทำความผิดทั้งผู้เสพและผู้ให้บริการ รวมถึงผู้ดูแลสถานที่ ถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำ หาความเชื่อมโยงทั้งหมด และยังได้ตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์จำนวน 35 คัน มาตรวจสอบ โดยมีหลักฐานเป็นภาพและวิดีโอยืนยัน แต่หลักฐานทุกอย่างถูกเอามาประกอบในสำนวน ไม่ได้เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน จึงถูกมองการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า
ส่วนกรณีมีตำรวจช่วยเหลือผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาหนีไปได้นั้น ผบช.น. ยืนยันว่ามีตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกไปแยกฟ้อง และพบว่าทุจริตต่อหน้าที่จริง โดยถูกแทรกแซงจากผู้มีอำนาจทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมถึงดำเนินคดีทางอาญากับตำรวจทั้ง 3 นาย ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจ แต่เป็นเพียงคนบางคนเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด
ส่วนประเด็นตำรวจไม่ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน นั้น ยืนยันว่าตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับ ปปง. พิจารณาไปแล้วถึง 2 ครั้ง รวมถึงมีหนังสือไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาให้เป็นคดีสำคัญ ช่วยทำสำนวนเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับทำคดีฟอกเงินนั้น ไม่ส่งผลกระทบสำนวนที่ทางนครบาลทำอย่างแน่นอนเพราะเป็นคนละส่วนกัน สำหรับพยานหลักฐานที่ชัดสืบสวนสอบสวนนครบาลมีอยู่ในขณะนี้ เชื่อมั่นว่ามีน้ำหนักเพียงพอ สามารถส่งฟ้องเอาผิดกับนายตู้ห่าวได้
นอกจากนี้ยังมอบกำลังใจให้กับตำรวจที่ถูกพาดพิงว่าเป็นพนักงานตำรวจใกล้เกษียณอายุราชการ จะมีความสามารถในการสอบสวนคดีนี้หรือไม่ ผบช.น. ยืนยันว่า เป็นบุคลากรที่เป็นครูฝึกสอน ให้กับพนักงานสอบสวนรุ่นน้อง และยังเขียนแผนผังความเชื่อมโยงเกี่ยวกับคดีนี้จนสามารถหาหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีขณะนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 7 คน จาก 10 คน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยคดียังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบบุคคลที่เชื่อมโยงกับคดียาเสพติด ก็ต้องดำเนินการเอาผิดเพิ่มทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าตั้งใจจะทำคดีนี้ให้สมบูรณ์ ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะเป็นคดีที่กระทบโครงสร้างทางเศรษฐกิจมาก เมื่อถามว่า มีอะไรจะพูดถึงบุคคลที่ออกมาตั้งคำถามถึงการทำงานของตนเองหรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า ขอตัวทำงานดีกว่า โดยจะทำให้เต็มที่