ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกก็ต่างเร่งเตือนรัฐบาลของแต่ละประเทศให้แก้ปัญหาสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลขึ้นไปในชั้นบรรยากาศในแต่ละปี
มิฉะนั้นน้ำแข็งขั้วโลกก็จะเริ่มละลายลงอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดปัญหาระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ทว่าท่ามกลางวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นนี้ นานาชาติทั้งหลายที่มีพรมแดนติดกับมหาสมุทรอาร์กติก อันเป็นที่ตั้งของผืนน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออย่างแคนาดา นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก สหรัฐฯ และรัสเซียนั้น ก็กลับมองเห็นโอกาสทางการค้าใหม่ในภูมิภาคนี้ ไปเสียได้
เนื่องจากเส้นทางการเดินเรือระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ กับทวีปเอเชียนั้น สามารถลัดเลาะผ่านมหาสมุทรอาร์กติกไปได้ ด้วยระยะและเวลาที่สั้นกว่าเส้นทางการเดินเรือแบบดั้งเดิม แถมยังไม่ต้องไปผ่านคลองสุเอซและปานามา ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมราคาแพงอีกด้วย
ในปี 2021 เรือบรรทุกเชื้อเพลิงแก๊สธรรมชาติขนาดยักษ์ของรัสเซียได้เดินทางออกจากท่าเรือ ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน มายังท่าเรือในไซบีเรีย ท่ามกลางฤดูหนาวของมหาสมุทรอาร์กติกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกทั้งก่อนหน้าในปี 2018 บริษัทขนส่งสินค้าสัญชาติเดนมาร์ก ก็ได้เริ่มเดินเรือฝ่าภูมิภาคขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย
และเมื่อกิจกรรมการเดินเรือฝ่าขั้วโลกเหนือนี้ เริ่มดำเนินการไปอย่างคึกคักมากขึ้น กิจกรรมทางการทหารและการขยายฐานทัพของชาติมหาอำนาจต่าง ๆ ก็เริ่มปรากฏให้เห็นตามมาด้วยเช่นกัน ทำให้เป็นที่น่าจับตามองว่า ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการเมืองในขั้วโลกเหนือนั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่ ท่ามกลางวิกฤตสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกนี้
ที่มาข้อมูล: EOS, WIRED
ที่มาภาพ: AFP
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech