วันนี้ (2 ม.ค.2566) ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF) แสดงความกังวลต่อกรณีที่รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์และกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ท่ามกลางการระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 ซึ่งคาดว่าปัญหานี้จะฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก
โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจีนจะเผชิญความยากลำบากมากขึ้นไปอีก และปีที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเท่ากับหรือน้อยกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งโลก
ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯมีความยืดหยุ่นมากที่สุด ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งอยู่
แต่สิ่งที่น่ากังวลคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้ ที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก จนทะลุร้อยละ 5 ทั้งที่ปีที่ผ่านมาเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อกดให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่เฟดต้องการ
ทั้งนี้ ตลาดแรงงานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เฟดกำลังจับตาดู ซึ่งในวันศุกร์ (6 ม.ค.) ที่จะถึงนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของเดือน ธ.ค. ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 200,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปี 1960