วันนี้ (5 ม.ค.2566) นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยกับไทยพีบีเอส ถึงมาตรการรับมือนักท่องเที่ยวจากจีน ว่าขณะนี้เริ่มได้รับการติดต่อจากภาคธุรกิจทางจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยทางประเทศไทยเริ่มมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว
แต่ในระยะแรกยังมีข้อจำกัดหลายอย่างหลาย เนื่องจากธุรกิจได้หยุดดำเนินการไปบางส่วนในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และการประกาศปลดล็อกของจีนเป็นไปแบบกะทันหันในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเกินความคาดหมายของหลายฝ่ายที่มองว่าน่าเป็นช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งทำให้มีความฉุกละหุกในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการก็มีการตั้งตารอ ดังนั้นผู้ประกอบการก็มีความพร้อมระดับหนึ่งในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงแรกได้
ในส่วนของเรื่องความไม่พร้อม ประเด็นหลักคือพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ที่เคยทำอยู่ หลายๆ คนก็มีอาชีพใหม่เข้ามาเสริม การเรียกกลับมาทำงานอาจจะไม่ง่ายหรือเร็วมากนัก ในเรื่องของมัคคุเทศก์ หรือทางด้านรถขนส่งของผู้ประกอบการภาคขนส่ง มีรถจำนวนมากที่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการฟื้นฟู ซ่อมแซม ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ
จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการรถขนส่งขณะนี้มีรถบัสอยู่ในระบบ 30-40% หรือ กว่า 10,000 คัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแรงงานด้านคนขับรถขนาดใหญ่ยังขาดแคลน ซึ่งช่วงนี้คงเป็นช่วงของการเริ่มต้นและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
สำหรับเงินทุนในการปรับปรุงที่พักของผู้ประกอบการนั้น ได้มีการพูดคุยมาตลอดตั้งแต่ไทยเริ่มปลดล็อกในประเทศ ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ก็เริ่มมีการปรับฟื้นมาเป็นระยะๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งระดับหนึ่งในการเข้าถึงเงินทุนในระบบ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการขนาดเล็กยังมีปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนจึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ต่อไป
นอกจากนี้มีหลายฝ่ายกังวลว่าโรคโควิด-19 จะกลับมาระบาด หลังจากมีการปลดล็อกนักท่องเที่ยวชาวจีน เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากชาวจีนจะให้ความสำคัญด้านสุขภาพเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มคนที่มีสุขภาพแข็งแรง และส่วนใหญ่ผ่านการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว แต่สิ่งที่กังวลจะเป็นเรื่องของทัศนคติ เนื่องจากมองว่าคนไทยบางส่วนยังมีทัศนคติด้านลบกับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ทั้งนี้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง การปฏิบัติตามมาตรการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง รวมถึงคอยสอดส่อง ระมัดระวังดูแลความปลอดภัย ทั้งตนเองและนักท่องเที่ยวควบคู่กันไป