ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทนายษิทรา" แถลงครั้งแรกปมเปิดโปงคดีชู้สาวอดีตรองนายกฯ

อาชญากรรม
9 ม.ค. 66
11:03
33,826
Logo Thai PBS
"ทนายษิทรา" แถลงครั้งแรกปมเปิดโปงคดีชู้สาวอดีตรองนายกฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ทนายษิทรา" อ้างอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงในคดีชู้สาว เคยเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมานานกว่า 5 ปี ยืนยันที่ออกมาเปิดเผยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เพราะผู้เสียหายถูกข่มขู่ จากกลุ่มชายฉกรรจ์หลังเป็นคดีความ

วันนี้ (9 ม.ค.2566) นายษิทรา  เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ให้ปรึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมาย กับผู้ชายคนหนึ่ง ที่นำข้อมูลมาปรึกษา เนื่องจากพบว่าแฟนสาวของตัวเองไปมีความสัมพันธ์​กับนักการเมือง อดีตรองนายกรัฐมนตรี  โดยมีหลักฐานแชตไลน์ สนทนาพูดคุยกันในเชิงชู้สาว ระหว่างผู้หญิง และอดีตรองนายกรัฐมนตรี 

นายษิทรา เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อปี ต.ค.2565 โดยผู้เสียหายนำข้อมูลมาปรึกษาเดือน ธ.ค.2565 เนื่องจากพบว่าภรรยาที่ทำงานอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป จึงเกิดสงสัยไปแอบเปิดโทรศัพท์มือถือของภรรยา และพบข้อความสนทนาทางไลน์กับผู้ชายคนหนึ่ง และยังพบภาพเปลือยของทั้งสองคนถ่ายเก็บบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ โดยผู้เสียหายที่นำความมาปรึกษารู้สึกเสียใจ เนื่องจากผู้ชายที่มีสัมพันธ์กับภรรยาเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง

นายษิทรา จึงให้คำปรึกษาในเรื่องของข้อกฎหมาย โดยคดีนี้ได้ฟ้องทางแพ่งและฟ้องหย่ากับภรรยาไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2565 โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดคดีเดือน มี.ค.ปีนี้ 

ต่อมา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ทราบว่า สามีของผู้หญิงทราบเรื่องแล้วจึงพยายามตีตัวออกห่าง และมีการฟ้องร้องเพื่อให้ภรรยาของผู้เสียหายคืนทรัพย์สิน​ต่าง ๆ ให้ 

เวลาต่อมา ผู้เสียหายและภรรยา​ รวมทั้งอดีตรองนายกรัฐมนตรี​ นัดเจรจาคดีความนี้กันที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน โดยผู้เสียหายอ้างว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามาในโรงพัก มีพฤติกรรมข่มขู่ที่สถานีตำรวจ และตามมาข่มขู่ถึงที่บ้าน

ผู้เสียหาย จึงกังวลในเรื่องของความปลอดภัย นำข้อมูลนี้มาปรึกษา เพื่อให้เปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสื่อมวลชน และได้นำข้อมูลหลักฐานไปส่งมอบให้กับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนหนึ่งรับผิดชอบคดีแล้ว

นายษิทรา อ้างว่า บุคคลดังกล่าวเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ที่ชอบกีฬากอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ฯ ส่วนบุคคลนี้ จะเคยมีพฤติกรรมลักษณะชู้สาวกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้ แต่กับลูกความตัวเอง ถือว่ามีหลักฐานชัดเจน ดังนั้นการที่บุคคลที่รู้ตัวเองอยู่แล้ว ออกมาปฏิเสธ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ นายษิทรา ยืนยันว่า บุคคลนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มานานกว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ถือเป็นคดีความส่วนตัว เท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง