เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 กรณีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารกองสลากพลัส พร้อมทนาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ตามหมายเรียกและได้รับสารภาพในฐาน ร่วมกันเสนอจำหน่าย และจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด แต่ให้การปฏิเสธในฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้จดทะเบียน
นอกจากนี้ ปคบ. ยังมีหมายเรียกให้แพลตฟอร์มเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้จดทะเบียน และ ร่วมกันเสนอจำหน่าย และจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด นั้น
อ่านข่าว : ตำรวจดำเนินคดี "นอท กองสลากพลัส" ผิด พ.ร.บ.ขายตรง
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีแพลตฟอร์มเอกชนที่ให้การรับสารภาพฐานร่วมกันเสนอจำหน่าย และจำหน่ายสลากฯ ที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด โดยได้เสียค่าปรับต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ถือว่าได้ยอมรับผิดแล้ว
ในกรณีนี้ สำนักงานสลากฯ จะมีหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะที่มีอำนาจโดยตรงในการระงับ ปิดกั้นเว็บไซต์ ที่กระทำการขัดต่อกฎหมาย เพื่อให้พิจารณาปิดกั้นการจำหน่ายสลากฯ ของแพลตฟอร์มเอกชนดังกล่าวต่อไป
สำหรับการจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 นั้น สำนักงานสลากฯ ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง เพื่อจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2565 ก่อนจะเริ่มดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัลในงวด 16 มิ.ย.2565
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ จะมีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขอให้ตรวจสอบแพลตฟอร์มเอกชนทุกแพลตฟอร์มที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่
แจ้งความ "ผู้บริหารกองสลากพลัส" หมิ่นประมาท
ขณะที่นายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ค้าสลากรายย่อย จ.เลย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพันธ์ธวัช ผู้บริหารกองสลากพลัส ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของผู้บริหารกองสลากพลัส
นายจีระศักดิ์ เปิดเผยว่า หลายเรื่องที่ผู้บริหารกองสลากพลัสโพสต์ข้อความแล้วทำให้เสียหาย อาทิ รับล็อตเตอรี 3,000 ใบ เพื่อไม่ให้ไปประท้วง และอ้างว่ารับเงินคนอื่น 400,000-500,000 บาท ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงต้องการขอความเป็นธรรมและดำเนินคดีจนถึงที่สุด