จีนระงับวีซาต่างชาติเข้าประเทศ ตอบโต้ปมจำกัดการเดินทาง

ต้องยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาลของหลายประเทศยังตั้งหลักไม่ถูก และไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับผู้ที่เดินทางมาจากจีนอย่างไร แม้เรื่องเศรษฐกิจจะสำคัญ แต่เรื่องความปลอดภัยของคนในประเทศก็สำคัญเช่นกัน ยิ่งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีนตอนนี้เป็นที่น่ากังวลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมณฑลเหอหนานที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเกือบทั้งมณฑล

ท้องถิ่นเปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อตรงข้ามกับทางการ

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2566 เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขมณฑลเหอหนาน เปิดเผยว่ามนฑลเหอหนานมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประมาณกว่า 88.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของประชากรทั้งหมด 99.4 ล้านคน แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ระบุช่วงเวลาของการติดเชื้อไว้ชัดเจน แต่คาดว่าอาจเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่บังคับใช้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

วันที่ 19 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา เป็นวันที่มีผู้ป่วยโควิด-19
เข้ารักษาตัวในคลินิกไข้มากที่สุด ก่อนที่จำนวนผู้ป่วยจะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ

ขณะที่ทางการจีน ระบุว่านับตั้งแต่ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม จีนพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศประมาณ 1.2 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 30 คนเท่านั้น

เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลท้องถิ่นเปิดเผยข้อมูลตรงข้ามกับรัฐบาลกลาง

หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลในหลายเมืองและหลายมณฑล ออกมาเปิดเผยในลักษณะเดียวกัน ซึ่งรวมถึงเมืองชิงเต่า ที่เปิดเผยในช่วงปลายเดือนธันวาคมเช่นเดียวกันว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองประมาณ 5 แสนคน/วัน ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากการรายงานของสื่อ

จีนตอบโต้ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ปมจำกัดนักท่องเที่ยวจีน

ส่วนเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.2566) รัฐบาลจีนประกาศระงับการออกวีซาระยะสั้นให้กับผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้เพิ่มเติมจากญี่ปุ่นที่ประกาศยุติการออกวีซาไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการตอบโต้ทั้งสองประเทศ ที่ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับจีน

รัฐบาลจีน ระบุว่าการระงับการออกวีซาระยะสั้นให้กับผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้จะมีผลบังคับใช้ จนกว่าเกาหลีใต้จะยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการเข้าประเทศอย่างเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่เดินทางมาจากจีน ในขณะเดียวกันทางการจีนได้แจ้งบริษัทด้านการท่องเที่ยว ว่าจะยุติการออกวีซาให้กับผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นเช่นกัน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่าทางการจีนเสียใจที่มีบางประเทศใช้มาตรการในลักษณะนี้ ซึ่งจีนไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและจะใช้มาตรการตอบโต้ประเทศเหล่านั้น 

ไม่ควรมีการใช้มาตรการป้องกันการระบาดอย่างเลือกปฏิบัติ
ไม่ควรทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศของประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียง 2 ประเทศที่ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับจีน แต่มาตรการของทั้งสองประเทศถือว่าเข้มงวด

โดยสัปดาห์ที่แล้วเกาหลีใต้มีคำสั่งระงับการออกวีซาให้กับนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของจีนแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ระบุว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้และไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์

ส่วนญี่ปุ่นยังคงอนุญาตให้ผู้เดินทางจากจีนเข้าประเทศได้ แต่จะต้องมีผลการตรวจโควิดที่เป็นลบ

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ระบุว่ารัฐบาลได้ติดต่อกับทางการจีน ผ่านช่องทางทางการทูตแล้ว พร้อมยืนยันว่าการยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดกับผู้ที่เดินทางมาจากจีน เป็นการปฏิบัติโดยยึดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

ผู้ประกอบการเกาหลีใต้สวนทางรัฐ ต้องการคนจีนเข้าประเทศกระตุ้นรายได้

แม้ปัญหาการระบาดในจีนสร้างความกังวลให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของหลายประเทศรวมถึงเกาหลีใต้ แต่ในแง่ของผู้ประกอบทั้งรายเล็กรายใหญ่ ต่างก็หวังว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะกลับมาจับจ่ายใช้สอย และน่าจะช่วยให้ยอดขายของพวกเขากระเตื้องขึ้น

พ่อค้าขายไก่ทอดในย่านเมียงดงที่กรุงโซล บอกว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ประกอบกับรายงานข่าวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก ทำให้พ่อค้าอย่างเขามีความหวัง เขาจึงคิดว่าจำเป็นต้องเตรียมวัตถุดิบให้มากขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากจีน

เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ขายอีกหลายๆ คน ที่อยู่ในย่านเมียงดง ต่างก็บอกว่าไม่กลัวหากว่าจะต้องติดเชื้อโควิด-19 เพราะในช่วงที่ผ่านมา พวกเขาประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ดังนั้นตอนนี้จึงต้องการให้ชาวจีนกลับมาเที่ยวเยอะๆ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้

WHO ยังย้ำให้สวมหน้ากากอนามัย

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกในยุโรป ระบุว่าองค์การอนามัยโลกขอแนะนำให้ผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินระยะไกลควรสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรง

ส่วนคำถามที่ว่าการเปิดประเทศของจีนส่งผลกระทบต่อการระบาดในภูมิภาคยุโรปหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกระบุว่า จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาดในจีนขณะนี้ เป็นสายพันธุ์ที่พบในยุโรปและอีกหลายพื้นที่อยู่แล้ว

โดยองค์การอนามัยโลกได้แบ่งปันข้อมูลกับศูนย์ควบคุมโรคของยุโรป พบว่าการระบาดในจีนไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์ด้านระบาดวิทยาในภูมิภาคยุโรปที่องค์การอนามัยโลกดูแลอยู่