วันนี้ (13 ม.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา ที่เป็นทั้งผู้รับเปิดบัญชีม้า เจ้าของบัญชีอินสตาแกรม รวมทั้งหมด 9 คน ที่ควบคุมตัวจากการแกะรอยเส้นทางการเงิน ในคดีหลอกลวงให้เด็กชายอายุ 15 ปี ดูโฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ โดยหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า ทำให้เด็กหลงเชื่อและนำเงินของผู้ปกครองมาร่วมลงทุน ความเสียหายประมาณ 14,000 บาท แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามอ้าง เด็กจึงเสียใจและฆ่าตัวตาย
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า แผนประทุษกรรมของผู้ก่อเหตุมีลักษณะที่ตำรวจเรียกว่า การตกเบ็ด คือ การสร้างแรงจูงใจเกี่ยวกับรายได้ผลตอบแทนที่สูง เมื่อมีผู้หลงเชื่อ จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกลวงให้ทำทุกภารกิจตามที่ได้ตกลงกันไว้ จากนั้นผู้ก่อเหตุจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีม้าที่เปิดทิ้งไว้ ก่อนจะมีการโอนเงินผ่านทางสกุลเงินดิจิทัลไปยังเครือข่ายที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน และกดเงินหรือแลกเงินออกมาอีกทอดหนึ่ง
คดีนี้ตำรวจ สอท.รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลฯ ออกหมายจับ 11 หมายจับ เป็นกลุ่มบัญชีม้าที่รับโอนเงิน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยจับผู้ต้องหาครบแล้ว ประกอบด้วย บัญชีม้า 6 คน พ่อค้ารับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้รับว่ามีเงินเข้ามาผ่านบัญชีจริง แต่รายละเอียดอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ตำรวจยังจับเจ้าของบัญชีอินสตาแกรมที่โพสต์ข้อความเชิญชวน 1 คน และขยายผลจับคนกดเงินที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ญาติเด็ก ม.3 ฆ่าตัวตายจี้ตำรวจตามจับมิจฉาชีพปมถูกหลอกลงทุน
ตร.ไซเบอร์ เตรียมออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุหลอกเด็ก 15 ปี ลงทุน