ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การยื่นรายชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ไม่ใช่วาระเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยระบุไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้เรื่องนี้ยังเป็นพระราชอำนาจที่ไม่สมควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์
ส่วนกรณีที่มีการนำพระราชกฤษฎีกาปี 2550 มาตราที่ 4 มาตราที่ 5 หรือ ที่เกี่ยวข้องมาอ้างอิงเพื่อ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เข้าข่ายการให้อภัยโทษนั้น ร.ต.อ.เฉลิม เห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะรายไม่ได้กำหนดเป็นกฎเกณฑ์ทั่วไป
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการยื่นฎีกาขออภัยโทษปกติผู้ที่จะขออภัยโทษจะต้องได้รับโทษก่อน หากยื่นขอให้กับผู้ร้ายหลบหนีคดีจะถือเป็นการผิดธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หรือ การนิรโทษกรรม มีกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติอยู่แล้ว แต่แนวทางขอพระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับโทษยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน พร้อมยกตัวอย่างกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษในคดีข้อกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูงของนายวีระกานต์ หรือ วีระ มุสิกพงศ์ เมื่อปี 2531 ที่เคยรับโทษมาแล้วประมาณ 1 เดือน ซึ่งนายวีระกานต์ได้รับการอภัยโทษในที่สุด
