ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศาลออกหมายจับ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีดีเอสไอ

อาชญากรรม
2 ก.พ. 66
14:06
2,681
Logo Thai PBS
ศาลออกหมายจับ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีดีเอสไอ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลออกหมายจับ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีดีเอสไอ เหตุไม่มาฟังคำพิพากษาฎีกา คดีถูกฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ

วันนี้ (2 ก.พ.2566) เวลา 09.00 น. ศาลอาญา นัดฟังคำสั่ง คำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.310/2556 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โจทก์ที่ 1 และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โจทก์ที่ 2 ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพวกรวม 4 คน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200

ทนายความโจทก์ ทนายความจำเลย จำเลยที่ 2-4 ส่วนนายธาริต จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ซึ่งทนายความจำเลยที่ 1 แถลงขอเลื่อนคดี อัางถึงเหตุจำเลยที่ 1 เข้ารับการักษาจากการผ่าตัดโรคนิ่วในไต จำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นและติดตามอาการเป็นเวลา 3 เดือน

ด้านทนายความโจทก์ที่ 1 ไม่คัดค้านการขอเลื่อน โดยให้เป็นดุลพินิจของศาล แต่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการเพื่อกำชับให้มีการอ่านคำพิพากษา คำสั่งของศาลฎีกาโดยเร็ว เนื่องจากคดีนี้มีการขอเลื่อนนัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว และทนายความโจทก์ที่ 2 แถลงไม่คัดค้านเช่นกัน แต่แถลงเพิ่มเติมว่า ตามใบรับรองแพทย์ที่ยื่นนั้นไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวโดยอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดระยะเวลาทั้ง 3 เดือนหรือไม่

ศาลพิเคราะห์แล้ว เมื่อพิจารณาตามคำร้องขอเลื่อนคดีของจําเลยที่ 1 ประกอบเอกสารแล้ว ปรากฏเพียงว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้อง เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2566 ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลและต้องติดตาม อาการเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อประเมินสภาพไตและก้อนนิ่วอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้แจ้งว่าจําเลยที่ 1 จําเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดในทันทีหรือต้องผ่าตัดเร่งด่วนในวัน และเวลาใด และจําเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตลอดระยะเวลา 3 เดือนหรือไม่

อีกทั้งไม่ได้ลงความเห็นว่า จําเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยถึงขนาดที่ไม่สามารถเดินทางมาศาลในวันนี้ได้ ประกอบกับจำเลยที่ 1 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุเจ็บป่วยมาแล้วหลายครั้งเป็นเวลากว่าหนึ่งปี

น่าเชื่อว่า การที่จําเลยที่ 1 ไม่มาศาลเป็นการประวิงคดีให้ล่าช้า ตามพฤติการณ์จึงมีเหตุให้ เชื่อว่าจําเลยที่ 1 หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 เพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษาหรือคําสั่งศาลฎีกาต่อไป

ทั้งนี้ นายประกันจำเลยที่ 1 ไม่ส่งตัวจำเลยที่ 1 ต่อศาลตามนัด ถือว่าผิดสัญญาประกันให้ปรับนายประกันจำเลยที่ 1 เต็มตามสัญญา และแจ้งนายประกันจำเลยที่ 1 ให้ชำระค่าปรับต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันนี้

สำหรับคดีให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา ในวันที่ 24 มี.ค.2566 เวลา 09.00 น.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง