วันนี้ (8 ก.พ.2566) ความคืบหน้ากรณี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ใน จ.นครศรีธรรมราช แจ้งความร้องทุกข์ว่า เงินหายออกไปจากบัญชี กว่า 500,000 บาท โดยยืนยันไม่เคยกดลิ้งก์ หรือหรือรับสายคอลเซนเตอร์
ก่อนหน้านี้ 2 ปีก่อนพ่อแม่และผู้เสียหาย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อแม่เสียชีวิต ผู้เสียหายได้รับเงินประกัน และ พ.ร.บ. รวม 2.9 ล้านบาท จึงนำเงิน 1 ล้านบาท ไปซื้อสลากออมสิน และอีก 1 ล้านบาท ไปซื้อสลาก ธ.ก.ส. เหลือเงินในบัญชี 900,000 บาท ตั้งใจเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา ผ่านไป 2 ปี เหลือเงิน 500,000 บาท และเงินก้อนนี้หายไป
ย้อนไทม์ไลน์ เดือน พ.ย.2565 ผู้เสียหายตรวจสอบแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง พบมีการแก้ไขยอดโอนเงิน จาก 100,000 บาท เป็น 1,000,000 บาท ต่อวัน และเงินหายไป กว่า 500,000 บาท เหลือติดบัญชี 800 บาท โดยเงินถูกโอนไป 14 ครั้ง ภายในวันเดียว
ผู้เสียหายติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชี พบว่า เงินถูกโอนไปยังบัญชี น.ส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก เพียงบัญชีเดียว โดยธนาคาร ชี้แจงว่า ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นผู้เบิกโอนเอง แต่ผู้เสียหาย ยืนยันไม่ได้โอน ไม่ได้กดลิงก์ หรือรับสายคอลเซ็นเตอร์
จนเดือน ก.พ. ผู้เสียหาย ติดต่อไปยังบัญชีปลายทาง ซึ่งอยู่ใน จ.น่าน ด้วยตัวเอง และเจ้าของบัญชีปลายทาง ยอมรับ "รับจ้างเปิดบัญชีม้า"
ตำรวจยังพบว่า วงเงินถูกแก้ไขจากพัทยา และชลบุรี และเงินถูกโอนไปยังบัญชีปลายทาง ซึ่งอยู่ใน จ.น่าน แต่โทรศัพท์มือถือ อยู่ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหาย และเจ้าของบัญชีปลายทาง และส่งโทรศัพท์มือถือไปตรวจที่กองกำกับการพิสูจน์หลักฐาน 8 เพื่อหาความผิดปกติ ตรวจสอบการใช้งาน ข้อมูลในแอปพลิเคชัน ว่า มีมัลแวร์กดลิงก์ กดเงินสด หรือโอนเงินใด ๆ หรือไม่ และยังต้องรอผลทางเทคนิค คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้ จะชัดเจน