วันนี้ (21 ก.พ.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เดินทางมายังบริเวณสำนักงาน ก.พ. ตั้งโต๊ะแดงพร้อมไวท์บอร์ดสีขาว แว่นขยายแถลงข่าวอ้างว่า มีหลักฐานการทุจริตในกระทรวงคมนาคมจำนวนหลายล้านบาท และถูกนำมาเป็นทุนการเมืองให้กับพรรคการเมืองบางพรรคสะสมไปใช้ในการเลือกตั้ง โดยเริ่มต้นการแถลงข่าวด้วยการนั่งเสื่อวาดเส้น ขีดวง บนไวต์บอร์ด พร้อมระบุว่า จะมาตรวจชะตาราศีบ้านเมือง ชี้ปัจจุบันปัญหาต่าง ๆ ถึงกลียุคเพราะทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง
นายชูวิทย์ ยังได้เปิดไทม์ไลน์อ้างทุจริตโครงการรถไฟฟ้า ระบุ 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีโกง เปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่ปิดการขายซองแล้ว เปลี่ยนแปลงรูปแบบ เปลี่ยนจากการจ่ายเงินคืนให้รัฐ 7,000 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นให้รัฐจ่าย 70,000 ล้านบาท
สถานีทุจริต ร้องศาลปกครอง ศาลชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ และศาลสูงสุดยังไม่ออก แต่รู้มาว่าที่ประชุมใหญ่ มติ 27-23 ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้นั้น มีการจ่ายหรือทุจริตกันอย่างไรบ้าง
สถานีฮั้ว บริษัทไม่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติ แต่ยังยื่นขอหลักเกณฑ์ได้ เพื่อให้บริษัทนี้เข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว รวมถึงสถานีเงินทอน 30,000 ล้าน เข้ากระเป๋าใครที่สิงคโปร์ ธนาคาร HSBC และสถานีปลิว เปิดประมูลรอบสอง กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลไทยเท่านั้นจึงเหลืออยู่เพียงบริษัทเดียว
มันล็อกสเป็กกันแบบทุเรศทุรัง ผมไม่โทษใคร แม้แต่รัฐบาลก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนมีอำนาจอีกครั้ง ประชาชนอย่างผมหมดหวัง
นายชูวิทย์ ยังแนะให้ทุกคนต้องติดตามไม่เช่นนั้นชะตาเมืองจะดับ ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะเห็นการเลือกตั้งแต่เชื่อว่าจะเป็นเกม พร้อมท้าให้พรรคการเมืองเปิดเผยว่าจะจับมือกับใครประชาชนจะได้เลือกถูก พร้อมยืนยันว่า มีหลักฐานทั้งหมด แต่ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยถึงขบวนการพนันออนไลน์ โดยแบ่งเป็น 4 ขนาด ได้แก่ ไซซ์ XL วงเงิน 30,000 ล้านบาทขึ้นไป "ตี๋น้อยร้อยล้าน" ไซซ์ L วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซัว - ดี้ UEFA ไซซ์ M วงเงิน 10,000 ล้านบาทในชื่อ โจ๊ก Vegas168 และไซซ์ S 5,000 ล้านบาท ชื่อ 4 บ. มาเก๊า888 พร้อมเปิดข้อมูลว่าว่ามีการฟอกเงินพนันออนไลน์ผ่านบริษัทน้ำมัน
ทั้งนี้ นายชูวิทย์เชื่อจะมีการผลักดันโครงการทุจริตผ่าน ครม.นัดสุดท้าย ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ เพื่อทิ้งทวนการจัดทำงบประมาณ เพื่อนำเป็นทุนให้กับพรรคการเมือง
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ นายชูวิทย์ ได้พยายามโทรศัพท์เพื่อติดต่อผู้ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อจะขอเข้าพบ แต่ไม่มีคนรับสาย ต่อมาจึงได้ถือธงชาติไทยเดินไปที่หน้าประตูทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาเชิญเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล และได้หารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ
"ชูวิทย์" ต่อสายคุยนายกฯ ไม่มีจับ-ปรับ กรณี "บุหรี่ไฟฟ้า"
นายชูวิทย์ เปิดเผยหลังหารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นาน 1 ชั่วโมง ว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาโดยรวดเร็ว 1 เรื่อง และมีการแก้ไขปัญหาให้ รวมถึงยังขอข้อมูลเพิ่มเติม และสามารถได้รับการยืนยันว่าจะจัดการได้หมด และย้ำว่าพอใจที่ได้คำตอบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องกรมอุทยาน-รถไฟฟ้าสายสีส้ม-การพนันออนไลน์ -บุหรี่ไฟฟ้า-กระบวนการยุติธรรม
และกล่าวว่าส่วนตัวอาจจะชอบหรือเกลียดรัฐบาล แต่การวิพากษ์วิจารณ์เป็นไปด้วยความสุจริตใจ และมีความรักชาติรักบ้านเมือง และไม่ทราบว่าในอนาคต 3 เดือนข้างหน้านายกรัฐมนตรีจะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ แต่วันนี้อำนาจประชาชนได้นำความเดือดร้อนถึงนายกรัฐมนตรี โดยไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ซึ่งนายชูวิทย์ถ่ายรูปที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วยพร้อมกล่าวคำปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่ด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ยืนยันไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และไม่ได้ต้องการสร้างชื่อเสียง ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณไปยังพรรคการเมืองที่ตอบรับข้อเสนอการปรับทุจริตคอรัปชัน
นายชูวิทย์ยังเปิดเผยว่าได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยได้รับคำยืนยันว่าตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่มีการปรับหรือจับโทษกรณีบุหรี่ไฟฟ้าเพียงให้ยึดนับแต่วันนี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุข
และได้รับคำยืนยันจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการปราบปราม การพนันออนไลน์ทั้งชื่อ "นายซัว-นายโจ๊ก" รวมถึงปัญหาเรื่องที่ดินอุทยานที่มีการรับปากว่าจะให้ประชาชน ได้มีสิทธิ์ดูแลรักษาป่า ในกระบวนการยุติธรรมการใช้ดุลยพินิจต้องมีการตรวจสอบ ตามหลักการเหตุผลและกฎหมายไม่ใช่การใช้ดุลพินิจส่วนตัว โดยเฉพาะองค์กรอิสระจะต้องเป็นกลางอย่างแท้จริง
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าวนายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งที่ได้รับทราบเองและเรื่องที่ทราบจากนายชูวิทย์โดยได้สั่งเร่งดำเนินการไปแล้ว และตำรวจได้ดำเนินการ และมั่นใจว่าจะไม่มีกรณี ครม.อนุมัติงบฯ ทิ้งทวน เพื่อนำเงินไปใช้ในพรรคการเมือง