วันที่ 6 มี.ค.2566 เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ มีข้อความอ้างว่า "ทองอุไรต้นนี้ ราคาต้นละ 6,090.50 บาท ซื้อทั้งหมด 37 ต้น รวมเป็นเงินทั้งหมด 225,348.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงาของ จ.พังงา เมื่อปี 2565 พิกัดอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัด
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ บริเวณคลองระบายน้ำ ริมถนนหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพังงา จวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และอนุสาวรีย์สามพระยาบริรักษ์ภูธร สายพังงา-ทับปุด ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา พบว่ามีโครงการก่อสร้างแนวกันริมตลิ่ง ปรับภูมิทัศน์ โดยมีการดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ไม่พบป้ายชื่อโครงการ
เมื่อตรวจสอบต้นทองอุไรพบว่ามีการปลูกไว้รอบๆ คลองระบายน้ำโดยมีทางเดินรอบคลองระบายน้ำดังกล่าว ซึ่งต้นทองอุไรโตไม่เท่ากัน บางต้นสูงถึง 2.50 เมตร แต่บางต้นสูงเพียง 50 เซนติเมตร หลายต้นยังถูกหญ้าปกคลุมจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นทองอุไร
ผู้สื่อข่าวพยายาม ติดต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่ยังไม่มีการชี้แจงถึงรายละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นวันหยุดทางราชการ จึงยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติม
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจราคาต้นทองอุไร จากร้านจำหน่ายต้นไม้ในพื้นที่ พบว่าจำหน่ายต้นทองอุไรที่ปักชำ สูงประมาณ 50 เซนติเมตร - 1 เมตร ราคาอยู่ที่ต้นละ 100 บาท
โดยคนดูแลร้านจำหน่ายต้นไม้ในพื้นที่ บอกว่า ส่วนใหญ่ก็จะขายกันราคานี้ แต่ถ้าเป็นต้นใหญ่สูง 2-3 เมตร ก็อาจแพงหลายร้อย แต่ถ้าหลักพันยังไม่เคยเจอ
ประเด็นนี้ได้จุดกระแสในโลกออนไลน์ในวงกว้าง โดยเพจชมรมสตรอง(Strong)ต้านทุจริต จ.พังงา ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ได้โพสต์ข้อความ "เชิญชวนชาวพังงา check-in ชมต้นทองอุไร หน้าศาลากลางพังงา"
ล่าสุดก็ทำให้มีผู้มาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนได้โพสต์รูปต้นทองอุไรหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา ในคอมเมนต์ ขณะที่หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าราคานี้แพงเกินไปหรือไม่