วันนี้ (9 มี.ค.2566) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงกรณีบุคคลตามภาพถ่ายที่ปรากฏว่ามีบัตรประชาชนหลายใบและมีชื่อที่แตกต่างกันถึง 7 ใบ ซึ่งกรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้มอบหมายให้สำนักบริหารการทะเบียน ตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักทะเบียนกลาง ทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว
พบว่า บุคคลตามภาพถ่ายตามหลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตร ชื่อ นายภาคิน สุขประพันธ์ ในกรณีดังกล่าว เป็นการปลอมแปลงบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลในฐานข้อมูลระบบการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครองแต่อย่างใด เป็นการใช้ชื่อบุคคลอื่นกระทำการปลอมแปลงบัตร
ขณะนี้กรมการปกครองมีหนังสือแจ้ง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่เข้าแจ้งความ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การดำเนินการปลอมแปลงรายละเอียดชื่อในบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000–100,000 บาท
ยันไม่นำบัตรใช้เลือกตั้งได้
ส่วนประเด็นที่สังคมได้มีข้อสงสัยว่า การปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนลักษณะนี้ จะมีผลกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่นั้น นายแมนรัตน์ ยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นมาไปใช้ในการเลือกตั้งได้
เนื่องจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร และบัตรประชาชนที่กรมการปกครองในฐานะสำนักทะเบียนกลางจัดส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ไม่ปรากฏชื่ออื่น ๆ นอกเหนือจากชื่อจริงของบุคคลนั้น ซึ่งการแสดงตนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งจะมีการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของรายการบัตรประจำตัวประชาชนกับรายการทะเบียนบ้าน