วันนี้ (12 มี.ค.2566) ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจสหรัฐฯ แถลงข่าวแสดงความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสหรัฐฯ พร้อมระบุว่า ระบบธนาคารในตอนนี้ แตกต่างและดีกว่าในปี 2008 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมทั้งระบุว่า กระทรวงการคลังกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สอดคล้องกับความเห็นของ เจเนท เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เคยกล่าวว่า มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในความสามารถของภาครัฐ ในการตอบสนองต่อกรณีที่ ธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ (เอสวีบี) ซึ่งเน้นการปล่อยเงินกู้ให้บริษัทสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ถูกหน่วยงานกำกับดูแลการธนาคารของรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งปิด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เอสวีบี เป็นธนาคารใหญ่อันดับ 16 ของสหรัฐฯ เริ่มประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ต้องขายพันธบัตรและสินทรัพย์ในราคาที่ขาดทุนถึง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องเสนอขายหุ้นของธนาคารมูลค่า 2,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่อง
เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าว ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงกว่าร้อยละ 60 ภายในวันเดียว ในขณะที่บริษัทสตาร์ทอัพพยายามถอนหรือลดเงินฝากเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ลูกค้าของธนาคารหลายราย ระบุว่า ไม่สามารถถอนเงินได้
ทั้งนี้ สถาบันคุ้มครองการเงินได้เข้ามาดูแลธนาคารดังกล่าว พร้อมระบุว่า สำนักงานใหญ่และสาขาธนาคารทุกแห่งของเอสวีบี จะเปิดทำการอีกครั้งวันที่ 13 มี.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้ฝากที่มีประกันทุกราย จะสามารถเข้าถึงเงินฝากที่มีประกันได้อีกครั้ง ไม่เกินเช้าวันจันทร์นี้ โดยลูกค้าของธนาคาร จะได้รับการคุ้มครองเงินฝากรายละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,700,000 บาท