วันนี้ (14 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย ที่ปักหลักรอคอยบนถนนราชดำเนิน ริมรั้วทำเนียบรัฐบาล นานกว่า 7 ชั่วโมง เพื่อรอการพิจารณาวาระจรที่ 13 และเป็นวาระท้ายของการประชุม ครม.นัดสุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนที่คาดว่าจะประกาศยุบสภาในสัปดาห์หน้า
สุดท้ายการรอคอย มติครม.ก็เป็นผล นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรฯ แกนนำกลุ่มระบุว่า แม้ต้องรอคอยนาน แต่เมื่อ ครม.เห็นชอบก็เหมือนการันตี สถาบันการเงิน 4 แห่ง ได้แก่ ธกส. ธอส.ออมสิน และเอสเอ็ม อีแบงก์ รับทราบถึงข้อเรียกร้องของสหพันธ์ ที่ขอให้รับทราบแนวทางการใช้หนี้ของเกษตร ที่ติดค้างและจะต้องจ่ายให้สถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง
โดยให้จัดการตามหลักเกณฑ์การปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกรกว่า 50,000 คนได้ถูกตามระเบียบกฎหมายมากขึ้น ภายใต้งบกลางที่รัฐบาลอุดหนุน 1,500 ล้านบาท และจะยังช่วยทำให้เกษตรกร ที่ได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ์นี้ รวมกว่า 50,000 คน สามารถจัดการหนี้ของตัวเอง ที่มีหนี้รายละกว่า 1 ล้านบาท-2 ล้านบาท ได้เป็นระบบมากขึ้นด้วยเช่นกัน
และยังเป็นการเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ ให้เกษตรกรทั่วประเทศไทยที่มีอีกกว่า 6-7 ล้านคนด้วย โดยแกนนำระบุว่า ถ้าตามกรอบแล้ว เกษตรกรจะใช้หนี้ได้เกือบหมดหรือหมดได้ภายในระยะเวลาประมาณ 15 ปี
สำหรับการปักหลักครั้งนี้ ยังมีเสียงสะท้อนด้วยว่า หากเป็นไปได้ ไม่ว่าจากนี้ที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้น และจะได้ใครเป็นรัฐบาล ขอให้เน้นการปัญหาอย่างจริงจัง จากในพื้นที่ โดยไม่ต้องให้กลุ่มประชาชนต้องเข้ามาทำเนียบและเสี่ยงเผชิญหน้ากับตำรวจที่มาสกัดกั้นหรือการต้องปักรอรอคอยเป็นเวลานานอยู่ข้างทำเนียบฯ เพราะทุกปัญหาควรถูกแก้ได้จบ ตั้งแต่ในพื้นที่ โดยไม่ต้องให้ประชาชน เข้ากรุงเทพเพื่อมาชุมนุมเรียกร้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดแฟ้ม 13 โครงการเข้าครม.นัดสุดท้าย