วันนี้ (18 มี.ค.2566) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตามหาวัตถุวัสดุกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" อีกครั้ง หลังหายไปจากพื้นที่โรงงานไฟฟ้าไอน้ำที่ตั้งอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
นายกิตติ์กวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังสนธิกำลังค้นหาทั้งพื้นที่ในโรงงานและใกล้เคียง
ขณะที่การติดตามหาท่อขนาดใหญ่ที่มีสารซีเซียม-137 เจ้าหน้าที่ยังเน้นตรวจค้นภายในโรงงานเป็นหลัก และจากเบาะแสที่มีประชาชนแจ้งข้อมูล โดยขณะนี้ จ.ปราจีนบุรี ได้เพิ่มรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแสสำคัญนำไปสู่การพบเห็น จากเดิม 50,000 บาท เพิ่มเป็น 100,000 บาท เนื่องจากต้องการให้ช่วยกันสอดส่องและเกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด
ทั้งนี้เวลา 15.00 น.วันนี้ (18 มี.ค.) หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจภายในโรงงาน ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมกับ ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี นายอำเภอศรีมหาโพธิ ผู้แทนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี จะหารือเพื่อสรุปสถานการณ์ร่วมกัน
ขณะที่เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้ติดตามและสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ซึ่งนำรถไปล้างที่คาร์แคร์และเป็นที่สงสัยว่าท้ายรถมีแท่งบรรจุสารซีเชียม-137 อยู่ โดยเจ้าตัวยอมรับว่านำรถไปล้างจริงเมื่อ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าท้ายรถไม่มีแท่งดังกล่าว ซึ่งตำรวจสอบปากคำหลายชั่วโมง ก่อนจะอนุญาตให้เดินทางกลับได้
การติดตามสารกัมมันตรังสีที่หายไป เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนตรวจวัดค่าสารกัมตรังสีที่ร้านรับซื้อของเก่า 2 แห่งใน ต.หัวหว้า และ ต.3หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ แต่ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงฝากแจ้งร้านขายของเก่า หากพบเห็นให้รีบแจ้งโดยด่วน หรือใครรับซื้อไปให้รีบแจ้ง ไม่ต้องกลัวความผิด
ล่าสุดเวลาประมาณ 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประชุมติดตามคดีในวันนี้ (18 มี.ค.) นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สั่งการให้เน้นลงพื้นที่ภายในโรงงาน 6 จุด และวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) จะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมเพิ่มอีก ขณะที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะตรวจหาค่าระเหยของสารบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและในตัวเมืองศรีมหาโพธิ์ เพื่อดูว่ามีการปนเปื้อนของสารซีเซียมที่หายไปหรือไม่
ด้านกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวทั้งในโรงงานและรอบเขตอุตสาหกรรม เพื่อหาเบาะแสสารซีเซียม 137 ที่หายไป พร้อมเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสเพิ่ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบท่อเหล็กต้องสงสัย "ซีเซียม-137" ที่คาร์แคร์-หาตัวเจ้าของรถ
ปส.เตือน "ซีเซียม-137" สุดอันตราย อย่าผ่าท่อ ปูพรมร้านของเก่า