วันนี้ (22 มี.ค.2566) เวลา 09.30 น. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องกรณีทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำผู้เสียหายกรณีถูกบุคคลแอบอ้างรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลอกให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่งกรมราชทัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) อาคารกระทรวงยุติธรรม
กรณีนี้ผู้เสียหายได้ถูกบุคคลแอบอ้างรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และผู้ใหญ่ในกรมราชทัณฑ์หลอกให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าผู้ต้องขังส่งกรมราชทัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่ามีออเดอร์จากหน่วยงานราชการกว่าล้านตัว เมื่อผู้เสียหายลงทุนและครบกำหนดที่จะต้องได้รับส่วนแบ่งผลประกอบการ ทางผู้แอบอ้างได้จ่ายเช็คเงินสดมาให้จำนวน 2 ครั้ง และเบิกเงินได้จริง โดยบอกว่าเป็นกำไรจากการร่วมลงทุน แต่เมื่อสอบถามถึงเงินที่ร่วมลงทุนบุคคลผู้แอบอ้างได้จ่ายเช็คให้ แต่เมื่อนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารกลับไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ซึ่งได้รับการบ่ายเบี่ยง หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้
โดยวันนี้ผู้เสียหายมายื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทางกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจะแจ้งรายละเอียดให้ผู้เสียหายได้ทราบต่อไป
ราชทัณฑ์ แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีมีผู้ถูกหลอกลวงให้ตัดเย็บเสื้อผ้า
นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังถูกหญิงสาวรายหนึ่ง หลอกลวงให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่งกรมราชทัณฑ์ โดยอ้างว่ามีออเดอร์จากหน่วยงานราชการจำนวนมาก อีกทั้ง ยังอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ในกรมราชทัณฑ์ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินร่วมลงทุน สูญเงินไปเกือบ 10 ล้านบาท นั้น
นายสิทธิ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างในการว่าจ้างให้ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ทัณฑสถาน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ มีนโยบายการดำเนินงานที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน โดยในกรณีที่มีผู้เสียหาย เข้าขอความเป็นธรรมกับทนายรณรงค์ฯ ในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้มีการจ้างงานในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด และหากเป็น การว่าจ้างหน่วยงานภายนอก จะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการทุกขั้นตอน
นายสิทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อบุคคลที่เข้ามาแอบอ้าง หลอกลวงว่ากรมราชทัณฑ์จ้างงานให้ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในทางธุรกิจ หากมีข้อสงสัยขอให้สอบถามมายังกรมราชทัณฑ์โดยตรง เพื่อจะได้ไม่เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ใช้หน่วยงานราชการในการหาผลประโยชน์เพื่อการกระทำผิดต่อไป