วันนี้ (27 มี.ค.2566) เครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เตรียมยื่นหนังสือต่อนายอำเภอแม่สาย เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน โดยระบุว่า ปัญหาไฟป่าและหมอกควันทั้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและข้ามแดน ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ อ.แม่สาย อยู่ในระดับที่สูงมากและเกินมาตรฐานติดต่อกันเกิน 7 วัน ซึ่งคุณภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลกระทบโดยตรงและรุนแรงต่อสุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก
พร้อมระบุอีกว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นการดำเนินงานแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมจากทั้ง จ.เชียงราย และอำเภอแม่สาย รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเครือข่ายภาคเอกชนและภาคประชาชนชาว อ.แม่สาย จึงเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วนและจริงจัง พร้อมมีข้อเสนอข้อเรียกร้องใน 2 ระยะ ดังนี้
1. ระยะเร่งด่วน สำหรับภาวะวิกฤต
1.1 ให้ภาครัฐประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินทันที เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน โดยให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นควัน PM2.5 เช่น หน้ากากอนามัย ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ สำหรับประชาชนอย่างเร่งด่วน
1.2 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งหารือการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชนจากการทำการเกษตร กับรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว
1.3 ให้ จ.เชียงราย แจ้งประสานประเทศเพื่อนบ้านให้ลดหรืองดการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่ทางการเกษตรในช่วงสถานการณ์คุณภาพอากาศย่ำแย่ โดยยึดตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) ซึ่งสมาชิกอาเซียนทุกประเทศได้มีการลงนามร่วมกันตั้งแต่ปี 2002
1.4 ให้มีการเฝ้าระวังและการป้องปราม การลักลอบเผาป่าในเขตชายแดนของประเทศอย่างรัดกุม และสนับสนุนอุปกรณ์เครืองมืออย่างเพียงพอให้แก่กลุ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า
2. ระยะยาว เพื่อการแก้ไขอย่างยั่งยืน
2.1 ให้รัฐบาลกำหนดเกณฑ์ค่ามาตรฐานของสภาพอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินให้ชัดเจน
2.2 ให้ จ.เชียงาย และอำภอแม่สาย จัดทำแผนรับมือสถานการณ์ผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM2.5 ที่เป็นรูปธรรมและแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติของภาคส่วนต่างๆ ในอนาคต
2.3 ให้รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ศึกษาผลกระทบการนำเข้าเสรี (AFTA) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลให้เกิดการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาการเผาป่าและปัญหาหมอกควันจากการเผาพื้นที่ทางการเกษตร และให้พิจารณายกเลิกอัตราการเก็บภาษีการนำข้าวโพดนำเข้าร้อยละศูนย์
2.4 ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชิญผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เจรจาหารือหาทางแก้ปัญหาการเผาข้าวโพด และผลกระทบต่างๆ จากการทำการเกษตร ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
2.5 ให้รัฐบาลยกระดับการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนให้เป็นปัญหาในระดับภูมิภาคอาเซียน+1 เพื่อให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกับชาติสมาชิกอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวแม่สาย นัดถกด่วน "วาระฝุ่นพิษ" ขอประกาศเขตภาวะฉุกเฉิน
แม่สายวิกฤตฝุ่นคลุมเมือง PM 2.5 พุ่ง ชาวบ้านร้องภาครัฐแก้ปัญหา
รัฐบาลเงียบ? ฝุ่นพิษแม่สายพีค "เครื่องฟอกอากาศ" 20 ตัวเอาไม่อยู่