วันนี้ (31 มี.ค.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำเงิน 6 ล้านบาท ที่ได้รับมอบส่งคืนจากโรงพยาบาล 2 แห่งมามอบให้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม
ก่อนส่งมอบเงิน นายชูวิทย์ นำหัวหมู เครื่องไหว้ มาทำพิธีไหว้ด้วย อ้างว่าไหว้สัมภเวสี เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ นอกจากนี้ นายชูวิทย์ได้นำเอกสารหลักฐานการบริจาคเงิน 6 ล้านบาท ที่นำไปซื้อแคชเชียร์เช็คบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โอนโดยไม่ผ่านบัญชีตัวเองมาแสดงอ้างเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่จะคืนเงินไปยังต้นทาง
นายชูวิทย์ ยอมรับว่า ได้รับเงินจากนายตำรวจยศ พล.ต.ท. ยืนยันไม่ใช่การขู่เข็ญให้ได้มาไม่ได้หลบซ่อนและสถานที่รับเงิน คือ ออฟฟิสตัวเขาเอง โดยวันที่มีคนนำมามอบให้ คือว้นที่ 30 มี.ค.2565 ขณะนั้นตัวเองอยู่ต่างจังหวัด กระทั่งต้นปี 2566 ผู้ที่นำเงินมาติดต่ออยากจะทำธุรกิจอาบอบนวด อยากปรึกษาตัวเองเพราะมีความรู้เรื่องนี้ หลังจากที่มีประเด็นเรื่องเงิน 6 ล้านบาท ผู้ที่นำเงินมามอบให้บอกกับตัวเองว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นผู้รับเงิน เปิดเผยว่า จะนำเงินไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบสืบสวนที่มาของเงินว่ามาจากใครและผิดกฎหมายหรือไม่
นายชูวิทย์ ยังพาดพิงไปยัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า เป็นคนที่มีข้อมูลเพียงน้อยนิด เป็นเพียงพยานบอกเล่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังพุดไปถึง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าเป็นสื่อมวลชนที่กลายเป็นคู่กรณี และโจมตี ด้วยความไม่สมเหตุผล