ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไฟป่าอุทยานฯ ภูสวนทราย ลุกไหม้นับสิบจุด เร่งสกัด-ทำแนวกันไฟ

ภูมิภาค
4 เม.ย. 66
15:41
257
Logo Thai PBS
ไฟป่าอุทยานฯ ภูสวนทราย ลุกไหม้นับสิบจุด เร่งสกัด-ทำแนวกันไฟ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไฟป่าใน อ.นาแห้ว จ.เลย ไหม้ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 และยังพบไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย นับ 10 จุด เจ้าหน้าที่ระดมกำลังดับไฟป่า แต่การควบคุมเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเป็นแนวภูเขาสูง

วันนี้ (4 เม.ย.2566) ควันไฟจากไฟป่าที่เกิดขึ้นภายในอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว จ.เลย มองเห็นพวยพุ่งจากภูเขาไม่น้อยกว่า 10 จุด บริเวณหนองปาด, โป่งไฮ, ไร่แม่โบว์ และหมู่บ้านห้วยน้ำผัก รวมทั้งอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายและไฟยังลุกไหม้รุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดแห้งแล้งและมีลมแรง ไฟได้ลุกลามไหม้พื้นที่การเกษตรบางหมู่บ้านเสียหายบางส่วน

นายจักรภัทร พรมคล้าย ปลัดอำเภอรักษาราชการแทน นายอำเภอนาแห้ว ระบุว่า ไฟป่าในอำเภอนาแห้ว ยังปะทุอีกหลายจุดโดยเฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายและหมู่บ้านใกล้กับอุทยานฯ

เจ้าหน้าที่สถานีไฟป่าภูสวนทราย ทหารพราน และชาวบ้าน ระดมกำลังขึ้นไปดับไฟป่า พร้อมทำแนวกันไฟ แม้ว่าการควบคุมในบางจุดจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในการเข้าไปในพื้นที่เพราะเป็นเขาสูงชัน

แต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์โดยรวมของการเกิดไฟป่าใน อ.นาแห้ว เกือบ 2 สัปดาห์ ยังลุกไหม้อยู่ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่ เชื่อว่าหากมีฝนตกลงมาจะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ส่วนผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้ทางอำเภอได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข มอบหมายให้ อสม.เข้าสำรวจพบว่าประชาชนได้ผลกระทบ เบื้องต้นได้มอบหน้ากาก N 95 อนามัย แจกให้กลุ่มผู้เปราะบาง โดยเฉพาะเด็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว

ที่ จ.นครราชสีมา ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พบว่า ตลอดระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงขณะนี้ เกิดไฟป่าแล้ว 16 ครั้ง จุดที่พบมากสุดเกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน 12 ครั้ง เสียหาย 173 ไร่

ส่วนสาเหตุเกิดจากการลักลอบเผาเพื่อหาของป่า มากสุด 13 ครั้ง นอกจากนี้ยังพบจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่การเกษตร มากถึง 695 จุด กระจายใน 32 อำเภอ

ไทยพบจุดความร้อน วานนี้ 1,786 จุด

ขณะที่ วันนี้ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียม วันที่ 3 เม.ย. ไทยพบจุดความร้อน 1,786 จุด ขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว อยู่ที่ 5,131 จุด, เมียนมา 2,489 จุด, กัมพูชา 372 จุด, เวียดนาม 352 จุด และมาเลเซีย 8 จุด

ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุดถึง 834 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 611 จุด, พื้นที่เกษตร 172 จุด พื้นที่เขต สปก. 93 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 71 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 5 จุด

จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ น่าน แม่ฮ่องสอน และเชียงราย  

ฝุ่น PM 2.5 เชียงราย สูงสุดเช้านี้ 200 มคก./ลบ.ม.

ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ทางภาคเหนือคงน่าเป็นห่วง เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พบหลายจังหวัดมีค่า PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย ที่มีค่า PM 2.5 สูงสุดกว่า 200 มคก./ลบ.ม. ตามด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน หนองคาย และเลย

ทั้งนี้ แนะประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัยและงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง