วันนี้ (6 เม.ย.2566)ในโลกออนไลน์พากันแชร์ประสบการณ์ของมะลิ ธนาภรณ์ เน็ตไอดอลสาว ผ่านเฟซบุ๊ก Mali Kanjanaphuping โดยเธอบอกเล่าประสบการณ์หลังจากเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง หลังฉีดเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เริ่มมีรอยช้ำขึ้นที่หน้าแก้มฝั่งขวา และแสบโพรงจมูกขวา น้ำมูกไหลไม่หยุด จนทำให้ต้องยกเลิกงานโปรโมทภาพยนตร์ในวันต่อมา
เธอเล่าอีกว่า ต่อจากนั้นไปพบหมอ เจาะเลือดให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้แพ้ และให้ยามาทานตามอาการ แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ และวันรุ่งขึ้น หลังจากเดินทางไปที่ลาว กลับมีอาการแย่ลงกว่าเดิม หน้าเริ่มบวมขึ้น ปากบวม มีแผลในปากหลายจุด และเหมือนมีสิวขึ้นเล็กน้อย จึงรีบเดินทางกลับมาหาหมอเฉพาะทางด้านผิวหนังที่รู้จักทันที
ชี้ "ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด" เสี่ยงอันตราย
หมอ ระบุว่าอาการนี้คือ “ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด” ซึ่งอันตรายมากๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่ Flow เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงในจุดต่างๆได้ เสี่ยงมากที่ฟิลเลอร์จะไหลเข้าตา เนื้อเยื่อตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง ส่วนตุ่มที่คิดว่าเป็นสิว ความจริงแล้วมันคือหนอง จากการอักเสบรุนแรง ต้องรีบฉีดสลายด่วน
หมอการรักษาเบื้องต้น ทั้งฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด หลังจากนั้นจึงส่งเคสไปให้ทาง โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อ
การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ 1ซีซี =ฉีดสลาย 1 ขวด
ปัจจุบันมะลิฉีดไป 45 ขวดแล้ว ซึ่งการฉีดยาวสลายเจ็บปวดมากส่วนคนที่ฉีดให้มะลิเขาไม่ได้เป็นหมอ เขาเป็นพยาบาล
เธอ ระบุถ้ารักษาตัวเองเรียบร้อยเมื่อไหร่ จะรีบดำเนินคดีกับเขาทันที พร้อมทั้งแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง เตือนเพื่อนๆ หลายคนไว้ การฉีดฟิลเลอร์ไม่ผิด แต่คนที่ฉีดให้ต้องเป็นหมอจริงๆ ต้องมีประสบการณ์ฉีดมาเยอะ มีความชำนาญและความรู้ว่าต้องฉีดอย่างไรจริงๆ เพราะต่อให้เป็นหมอฉีดแล้วพลาดขึ้นมา อย่างน้อยก็รู้สาเหตุและรักษาแก้ไขได้ถูกวิธี ทันท่วงที
แนะเช็กคลินิก-ฟิลเลอร์ของจริงลดเสี่ยง
สายฉีดควรเช็คคลินิก เช็กหมอ เช็กฟิลเลอร์ให้ชัวร์ว่าของแท้หรือเปล่า อย่าเห็นแก่ของถูก และถึงเป็นยาที่ผ่าน อย. ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการฉีดที่ผิดพลาด ผิดตำแหน่ง เพราะไม่ได้เรียนเฉพาะทาง ไม่รู้ว่าบริเวณไหนอันตราย ข้อห้ามข้อควรระวังในการฉีด
รวมทั้ง ข้อแนะนำหลังการฉีดที่เหมาะสม อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะหากมันพลาดขึ้นมา มันจะเจ็บหนัก จ่ายหนักกว่าเดิมหลายเท่า หรือบางครั้งมันอาจจะทำให้พิการขั้นตาบอด หรือไม่สามารถรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
พร้อมเตือนว่า เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตเลย และอยากขอบคุณครอบครัว เพื่อนๆ คนรอบข้างให้กำลังใจตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา