วันนี้ (19 เม.ย.2566) ความคืบหน้า ตำรวจสืบสวนนครบาล ควบคุมตัวนายอาหมิง และนางเสี่ยวเล่ย สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่หัวหน้าขบวนการแก๊งคนจีนอุ้มคนจีนไปเรียกค่าไถ่ 1,800,000 บาท ในพื้นที่ สน.บางโพงพาง พร้อมกับผู้ต้องหาคนไทยและคนจีนอีก 3 คน รวม 5 คน มาสอบสวน หลังจากที่ถูกจับได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยนายอดิศร แซ่ย้าง 1 ในผู้ต้องหาคนไทย ที่มีหน้าที่ขับรถให้กับกลุ่มผู้ต้องหา อ้างขณะที่ถูกคุมตัวเข้าห้องสอบสวนว่า ถูกว่าจ้างไปขับรถตู้ให้แต่ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอะไร ไม่เกี่ยวข้องกับการอุ้มตัวกับกลุ่มผู้ต้องหา
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าจากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาในคดีนี้เบื้องต้นมี 13 คน จับซึ่งหน้าไปแล้ว 3 คน ก่อนที่จะขยายผลขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ 10 คน ซึ่งจับมาได้แล้ว 5 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
มูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ นายหมิง อ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้ให้เงินกับผู้เสียหายไป 2,000,000 บาท เพื่อให้ไปดำเนินการยื่นเรื่องประกันตัวชาวต่างชาติที่ถูกดำเนินคดีอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับไม่ได้นำไปยื่นประกันตัว จึงทวงเงินคืนแต่ก็ไม่ได้เงิน เลยติดต่อให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งคนไทยและจีนรวมตัวไปพูดคุยที่ร้านกาแฟย่านเตาปูนและนำตัวมากักขังไว้ที่โรงแรมย่านสาทร
ส่วนผู้ต้องหา ที่ร่วมก่อเหตุพบว่ามีคนจีนที่ถูกออกหมายจับแล้ว 1 คน ขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
สำหรับผู้เสียหาย พบว่ามีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว โดยเคยนำพาคนจีนเข้ามาเที่ยวในไทยหลายครั้ง และคาดว่ารู้จักกับผู้ประกอบการอีกหลายหน่วยงาน
ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาจะเกี่ยวข้องกับคดีธุรกิจคนจีนสีเทาในไทยหรือไม่ เพราะคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ยังไม่ได้บอกถึงรายละเอียดว่าจะให้นำเงินไปประกันตัวกับผู้ต้องหาในคดีใด หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีจินหลิงผับหรือไม่ ตำรวจก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปสืบสวนต่อ
ส่วนการก่อเหตุของนายหมิง เชื่อว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลที่สามารถว่าจ้างและรวบรวมคนจีนมาร่วมก่อเหตุได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ และเชื่อว่าบางคนเคยก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่ในคดีอื่นมาบ้างแล้ว แต่บางส่วนก็ยังไม่ไปแจ้งความ
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างของผู้ต้องหาที่นายหมิงให้นำเงินไปช่วยประกันตัวนั้น เชื่อว่าเป็นเพื่อนกัน แต่น่าจะมีความสัมพันธ์มากกว่านั้น และจากการขยายผลสืบสวนจากหลักฐานที่พบ คาดว่าจะต้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นคนไทยเพิ่ม 1-2 คน และมีหน้าที่เชื่อมโยงกับผู้ต้องหาในกลุ่ม 2 ที่เพิ่งถูกจับได้
สาเหตุที่ตำรวจเชื่อว่านายหมิง และกลุ่มผู้ต้องหามีการก่อเหตุมาก่อน พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่าการสืบสวน พบว่ามีการทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่การนัดพบ จองคิวรถยนต์ จองที่พัก ใช้รถรับส่งเป็นตัวกลาง รวมทั้งการนำสิ่งของไปให้บุคคลที่ 3 ใช้รถรับจ้างสาธารณะ มีการตระเตรียมแยกรถกันนั่ง และติดตามกันเป็นขบวน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นการกระทำในลักษณะมืออาชีพ
ส่วนเงินที่ผู้เสียหายโอนไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหารวมกว่า 960,000 บาท ตำรวจติดตามอายัดเงินมาได้ 440,000 บาท ซึ่งบางส่วนเป็นเงินที่ผู้เสียหายขอยืมเงินจากอดีตภรรยาคนไทยที่โอนมาช่วยเหลือ เนื่องจากผู้เสียหายได้ขอความช่วยเหลือผ่านทางอดีตภรรยา จนทำให้ต้องมาแจ้งความและเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเชื่อว่ามีบุคคลที่กำลังคิดจะกระทำเหตุการณ์ในลักษณะนี้หลบซ่อนอยู่อีก แต่ยังรอเวลาที่กำลังจะลงมือก่อเหตุ ซึ่งพฤติการณ์ก็ใกล้เคียงกับแก๊งลูกหมู ที่อุ้มตัวมารีดเงินผู้เสียหาย เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และหากไม่พอใจก็อาจจะนำไปฆาตกรรมได้
พร้อมกับขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสถึงการก่อเหตุของผู้ต้อหากลุ่มนี้ในอดีต หรือกลุ่มที่ต้องสงสัย โดยสามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลข 191 ซึ่งก็จะส่งข้อมูลทางลับให้กับตำรวจสืบสวนนครบาลดำเนินการต่อ
อ่านข่าวเพิ่ม :
พบอีกอุ้มคนจีนรีดเงิน 1.8 ล้าน จับแล้ว 3 ออกหมายจับเพิ่ม 6 คน
จับสามี-ภรรยาเปิดบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน 143 ล้าน