วันนี้ (24 เม.ย.2566) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีถูกตัดสิทธิลงรับสมัคร ส.ส.เพราะถือครองหุ้นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS โดย กกต.จังหวัดใช้ดุลยพินิจว่า เข้าข่ายตามลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ว่า ได้ถือหุ้นในบริษัทแม่ แต่ต้องมารับผิดชอบในบริษัทลูกที่ตีความว่าเป็นหุ้นสื่อ ทั้งที่การเลือกตั้งปี 2562 ก็ถือหุ้นตัวเดียวกันและได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
อีกทั้งนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ลงชื่อรับรองการเลือกตั้งครั้งก่อน และได้ตรวจสอบข้อกฎหมายและระเบียบแล้ว ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมจึงทำให้เกิดความสับสน
ดังนั้นจะเดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันที่ 27 - 28 เม.ย.เพื่อสอบถามว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร และยังมีเรื่องเอกสารลับจะมาเปิดเผยให้สื่อรับทราบซึ่งเกี่ยวกับการทุจริตด้วย
นายชาญชัย ระบุว่า จะรอศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ตามที่ได้ร้องไว้หลังจากนั้น 7 วัน หรือวันที่ 2 พ.ค.คาดว่า ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาออกมาว่าจะได้สิทธิลงสมัครคืนหรือไม่
พร้อมยอมรับว่า เสียเปรียบคู่แข่งเพราะไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียง และตั้งข้อสังเกตเป็นประเด็นผิดปกติ เพราะไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและให้ตนไปชี้แจง จึงมองว่า อาจมีนัยแอบแฝงหรือเรื่องการเมืองเพราะวิธีการตรวจสอบก็ไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับ และที่ผ่านมาตนเองก็เคลื่อนไหวทำงานตรวจสอบทุจริตหลายเรื่อง เชื่อว่า สุดท้ายความจริงจะต้องปรากฎว่าใครอยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตามถ้าสุดท้ายถูกตัดสิทธิ แต่กระบวนการดำเนินการผิดกฎหมาย ก็จะใช้สิทธิทางกฎหมาย จะไม่ยอมปล่อยให้ใครลอยนวล ใช้ดุลยพินิจตามใจตัวเอง ใช้อำนาจตัวเองโดยไม่รอบคอบจะดูว่าเจตนา จงใจหรือมีอะไรเกี่ยวข้องหรือไม่
นายชาญชัย ยังระบุถึงข้อสงสัยที่ในเอกสารที่ กกต.ส่งให้มีชื่อนักการเมือง 130 คน และมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในลำดับที่ 53 และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ อันดับที่ 40 ซึ่งไม่ได้ถูกแขวนเหมือนตน แต่ก็ไม่ทราบว่าทั้ง 2 เป็นกรณีใดเป็นการถือหุ้นในลักษณะเดียวกันหรือไม่