เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานบรรยากาศในกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน ซึ่งยังพบเห็นควันดำจากการสู้รบลอยอยู่เหนือบ้านเรือน หลังจากการปะทะของกองทัพซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารยังดำเนินต่อไป ท่ามกลางข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของเซาท์ ซูดาน ซึ่งเสนอตัวช่วยไกล่เกลี่ย เปิดเผยว่า พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพ กับ พล.อ.โมฮัมเหม็ด ฮามดาน ดากาโล หรือ เฮเมดติ ผู้บัญชาการกองกำลังกึ่งทหาร เห็นชอบในข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-11 พ.ค. หลังจากประธานาธิบดีซูดานเซาท์ ซูดาน ต่อสายพูดคุยกับผู้บัญชาการของทั้ง 2 ฝ่ายผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามผลักดันการหยุดรบชั่วคราว
ขณะที่ยังไม่แน่ชัดว่าข้อตกลงนี้จะเป็นผลหรือไม่ เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีการตกลงมาก่อนหน้านี้ ล้วนถูกละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ด้านโฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า นับตั้งแต่การสู้รบในซูดานเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีประชาชนอพยพหนีความรุนแรงไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ซูดานแล้วมากกว่า 100,000 คน และอีกกว่า 334,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศ
ขณะที่โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุด้วยว่า ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการยึดห้องปฏิบัติการ ซึ่งเก็บตัวอย่างเชื้อโรคต่างๆ เอาไว้ก่อนหน้านี้ อยู่ในระดับปานกลาง นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกได้จัดส่งเสบียงและสิ่งของจำเป็นทั้งหมด 6 ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังพอร์ต ซูดานแล้ว และเตรียมสิ่งของช่วยเหลือไว้อีกกว่า 30 ตันในดูไบ เพื่อรอส่งมอบต่อไป
โจมตี รพ.กรุงคาร์ทูม เหลือเปิดทำการ 16%
อีกหนึ่งสถานการณ์ที่น่ากังวลในกรุงคาร์ทูม คือ มีรายงานโรงพยาบาลถูกโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการ โดยขณะนี้ในกรุงคาร์ทูมเหลือสถานพยาบาลเปิดทำการเพียง 16% เท่านั้น
ฝ่ายกองกำลังกึ่งทหาร ซึ่งมักใช้พื้นที่ในเขตเมืองที่มีคนอาศัยหนาแน่นเป็นที่หลบภัย กล่าวโทษฝ่ายกองทัพว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและเป็นฝ่ายโจมตีพื้นที่สถานพยาบาลต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาล East Nile ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน
ขณะที่แพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่าน East Nile ระบุว่า เมื่อเกิดการปะทะ ในวันนั้นจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาเพิ่มเติมจากคนไข้ในวันปกติ 30-40 คน ซึ่งทำให้บุคลากรต้องรับภาระเกินไป เผชิญปัญหาขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ และไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากภายนอกได้ เพราะสถานการณ์โดยรอบไม่ปลอดภัย
เร่งอพยพคนหนีภัยสู้รบซูดาน
ส่วนความคืบหน้าการอพยพประชาชนออกจากซูดาน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ช่วยอพยพประชาชนมากกว่า 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งชาวรัสเซียและพลเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่ชาวซูดานที่อพยพข้ามแม่น้ำไนล์ทยอยเดินทางถึงอียิปต์ ซึ่งจนถึงขณะนี้เดินทางไปอียิปต์มากกว่า 40,000 คน ส่วนที่เหลือกระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเซาท์ ซูดาน, ชาด และเอธิโอเปีย
รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ขบวนรถที่จัดหาโดยรัฐบาลอเมริกันช่วยอพยพชาวอเมริกัน รวมถึงผู้คนสัญชาติอื่นๆ รวมมากกว่า 700 คนไปยังพอร์ต ซูดาน ได้อย่างปลอดภัย โดยสหรัฐฯ จะอำนวยความสะดวกจัดหาขบวนรถไปช่วยอพยพประชาชนเพิ่มเติม แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านความปลอดภัย
อ่านข่าวอื่นๆ
ตร.จับกุมชายโยนกระสุนปืนเข้าพระราชวังบักกิงแฮม