นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ระบุว่า หากคนที่ไม่มีโรคประจำตัว สามารถกินทุเรียนได้วันละ 1-3 เม็ด แต่คนที่ต้องระมัดระวังในการกินทุเรียน เช่น คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง ซึ่งต้องระวังน้ำตาลในทุเรียน หรือคนที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ ต้องระวัง เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง มีผลต่อการทำงานของหัวใจ และผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดโพแทสเซียมต้องระวังอย่างมาก
ไม่ควรกินทุเรียน 1 ลูกโตๆ ถือว่าเยอะเกินไป จะทำให้น้ำตาลพุ่ง ไปกระตุ้นให้ตับอ่อนทำงานหนัก โดยการสร้างอินซูลิน ถ้ากินวันละ 1 ลูกจะมีความเสี่ยงต่อภาวะดื้ออินซูลิน นำไปสู่ความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง
ทุเรียนไม่ควรกินกับอะไร?
นพ.กฤษดา ระบุว่า ทุเรียนมีน้ำตาล ไขมันสูง ไม่ควรกินกับของหวาน เช่น คาร์โบไฮเดรตสูง ไขมันสูงร่วมกัน รวมทั้งทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน ทำให้เกิดการอักเสบง่าย ไม่ควรกินร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดความร้อน อาจจะทำให้เกิดภาวะร่างกายอักเสบและแก่เร็ว
กินทุเรียนกับเหล้าขาว หรือกินกับเบียร์ทำให้เสียชีวิต เกิดขึ้นจริง เพราะทุเรียนเป็นของร้อนเมื่อกินร่วมกับแอลกอฮอล์ พวกนี้เป็นของร้อนที่ขับน้ำออกไป เพิ่มการอักเสบในร่างกาย อาจจะทำให้ร่างกายอักเสบมากเกินไป ทั้งทุเรียนทั้งเหล้าก็ทำให้เผาร่างกายจนพัง
นอกจากนี้ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เช่น ลำไย ขนุน มะม่วงสุก ส่วนมังคุดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น สามารถกินคู่กับทุเรียนได้ เพราะมีสารต้านการอักเสบ
ทุเรียนมีสารอาหารและประโยชน์
นพ.กฤษดา ระบุว่า ทุเรียนมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ คือ ซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สารอาหารเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย รวมทั้งทุเรียนยังมีวิตามินเอ วิตามินซี รวมไปถึงแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม มีความจำเป็นต่อกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ส่วนซิงค์ สังกะสี ช่วยการเจริญเติบโตของเส้นผม
ทุเรียนหนึ่งลูกมีคุณค่าสมกับเป็นราชาแห่งผลไม้และราชาแห่งสุขภาพ ถ้าเรากินให้ถูกต้อง
ทุเรียนอ่อนแป้งเยอะ กลายเป็นน้ำตาลในร่างกาย
นพ.กฤษดา ระบุว่า “ทุเรียนอ่อน” นอกจากจะไม่อร่อย ไม่ควรกิน ยังมีส่วนของแป้งเยอะเกินไป และทำให้มีประโยชน์น้อย ส่วนทุเรียนที่สุกกำลังดีในงานวิจัยพบสารชะลอวัย
การกินทุเรียนอ่อน นอกจากเสียเงิน อาจจะได้ประโยชน์ ไม่คุ้มกับการชะลอวัย
ไม่ควรเทียบพลังงานของทุเรียน
นพ.กฤษดา ระบุว่า องค์ประกอบหลักของทุเรียนคือน้ำตาล เมื่อถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานจะให้พลังงานสูง นอกจากนี้ยังมีไขมันที่สูงด้วย แต่ไขมันของทุเรียนเป็นไขมันดี หลายคนมักจะเปรียบเทียบการให้พลังงานของทุเรียนที่เปรียบเทียบทุเรียน 4-6 พู เท่ากับข้าวมันไก่ทอด 1 จาน แต่ความจริงแล้ว ไขมันที่ได้จากข้าวมันไก่ทอดกับทุเรียนไม่เหมือนกัน เพราะไขมันที่ได้จากข้าวมันไก่ทอดเป็นไขมันไม่ดี ส่วนทุเรียนมีไขมันดีสูง
ควรเทียบทุเรียนกับผลไม้ เช่น อะโวคาโด ซึ่งเป็นผลไม้สุขภาพ ถ้าเทียบแบบนี้ถึงจะจับคู่ถูก
ทุเรียนลดไขมันได้จริงหรือ?
นพ.กฤษดา ระบุว่า มีการศึกษาในงานวิจัยหลายชิ้น ในทุเรียนพบสารต้านอนุมูลอิสระ เรียกว่า โพลีฟีนอล สารตัวนี้สามารถลดคอเลสเตอรอลได้ แต่ยังอยู่ในงานวิจัย ในคนยังไม่มีการระบุว่าการกินทุเรียนจะทำให้ลดไขมันในเลือด แต่ตามหลักการโพลีฟีนอล มีส่วนช่วยลดไขมันได้
ไม่ควรกินทุเรียนเพื่อจุดประสงค์การลดไขมัน แต่กินทุเรียนให้มีความสุขและได้สารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นสารที่เกี่ยวข้องกับสารต้านอนุมูลอิสระ
วิภา ปิ่นแก้ว รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาชีพ "วิ่งทุเรียน" สร้างรายได้งาม แตะเดือน 4 หมื่นบาท
บุฟเฟต์ "ทุเรียน" คึกคัก รับนักท่องเที่ยววันหยุดยาว