วันนี้ 8 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ยื่นคำร้องขอหมายขังผู้ต้องหา ในคดียักยอกเงินวัดธรรมคีรีรวม 3 คน ประกอบด้วย นายคม, นายวุฒิมา และ น.ส.จุฑาทิพย์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ในคำร้องระบุพฤติการณ์แห่งคดีว่าอดีตพระมหาวุฒิมา เถาว์หมอ หรือ นายวุฒิมา ในขณะดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ครอบครองเงินที่ได้รับบริจาคของวัด มีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาซับใดเบียดบังเอาเงินของวัดไปเป็นของตนหรือของผู้อื่น โดยทุจริตด้วยการถอนเงินสดออกจากบัญชีเงินฝากของวัดตามคำสั่งการของอดีตพระอาจารย์คม หรือ นายคม
เมื่อรวบรวมได้เงินเป็นจำนวนมากพอ นายคมก็สั่งการให้นายวุฒิมานำเงินบรรจุใส่กระเป๋า ส่งมอบให้กับ น.ส.จุฑาทิพย์ ซึ่งเป็นน้องสาวของนายคมอยู่หลายครั้งต่างกรรมต่างวาระตามสถานที่ต่าง ๆ ใน จ.นครราชสีมา กรุงเทพมหานครและ จ.นนทบุรี อย่างเกี่ยวพันกัน
จากนั้น น.ส.จุฑาทิพย์ ได้นำเงินสดที่รับมาไปเก็บไว้ที่บ้านของตัวเองเมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นก็พบกับเงินสด 51 ล้านบาทเศษ และยังพบทรัพย์สินเป็นเงินฝากในบัญชี อีกจำนวนมาก โดยรวมมูลค่าทรัพย์สินของวัดที่ถูกประทุษร้าย แล้ว มี 182,776,733.42 บาท
การกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย
และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการฯ โดยทุจริตหรือรับของโจร
และมีเหตุควรเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะหลบหนีเพราะคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 3 จะก่อความเสียหายขนย้ายทรัพย์สินไปซุกซ่อนไว้ที่อื่น
อีกทั้งการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จเพราะรอการตรวจพิสูจน์ของกลาง, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน, รอผลตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์และข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารต่าง ๆ จึงขอฝากขังพร้อมคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนีเป็นการกระทำสร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา เกรงจะมีการ
ในระหว่างการสอบสวนซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่นั้นยังพบพฤติการณ์มีการสั่งการให้พระและลูกศิษย์ทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของวัดที่ได้รับบริจาคมาจากประชาชนนำออกไปเตรียมจะซุกซ่อนไว้ที่อื่นด้วย ซึ่งหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทำให้กระทบเสียหายต่อการสอบสวนได้
ศาลรับคำร้องฝากขังจากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยระบุเหตุผลว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ถูกกล่าวหา มีอัตราโทษสูงมีลักษณะร่วมกันกระทำความผิดอีกทั้งผู้ต้องหาอาศัยโอกาสกระทำความผิดในขณะครองสมณเพศอันเป็นที่เคารพและเชื่อถือศรัทธาของประชาชน
พฤติการณ์เป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง ประกอบกับการตรวจยึดของกลาพบเงินสดและมีความเสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก หากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 3 อาจจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวทั้ง 3 คน เข้าคุมขังในเรือนจำ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบเงินสด 80 ล้าน - ทองคำแท่ง 19 ล้าน ฝังดินบนเขาหลังวัดป่าธรรมคีรี
ฝากขัง-ค้านประกัน "อดีตพระอาจารย์คม-พวก" คดียักยอกเงิน
จับ “อดีตพระอาจารย์คม” วัดป่าดัง พร้อมพวก ยักยอกเงิน 180 ล้านบาท