วันนี้ (16 พ.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนางสรารัตน์ หรือ "แอม" ผู้ต้องหาคดีวางยาไซยาไนด์ ว่า วันนี้ได้แจ้งข้อหากับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีแอม ในข้อหา "ร่วมกันซ้อนเร้นทำลายพยานหลักฐาน" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184 โดยข้อหาที่ถูกแจ้งเพิ่มเป็นคดีของ "ก้อย" ที่เกิดเหตุใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
หลังจากพบว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ นำกระเป๋าของก้อยไปซ่อนไว้ ก่อนสุดท้ายจะพบว่าถูกส่งไปที่นางแก้ว พยานปากสำคัญและเป็นผู้รับกล่องพัสดุใน จ.เพชรบุรี ซึ่งผู้ต้องหาเป็นตำรวจรับรู้อยู่แล้วว่าของที่ได้มาเป็นของกลางในคดี แต่ไม่นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน กลับนำไปให้บุคคลอื่น ซึ่งจากการแจ้งข้อหาในวันนี้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ยังให้การปฎิเสธ
อ่านข่าว : ตร.เรียก "อดีตสามีแอม" รับทราบข้อกล่าวหาทำลายหลักฐาน
ส่วนกรณีที่พบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง 4-5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนกรณีน้องสะใภ้ของแอมที่ถูกใช้ให้ไปส่งกระเป๋าให้กับนางแก้วนั้น จากการสอบปากคำน้องสะใภ้ไม่ทราบว่าของในกระเป๋าคืออะไร จึงไม่มีความผิด
สำหรับคำให้การของ "แอม" เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องที่ระบุว่านำไซยาไนด์มาจากนายแด้ แต่ก็มีข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์คือการรับสารภาพว่านำไซยาไนด์ไปให้ก้อยใช้ ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะสรุปลำดับเหตุการณ์ทั้ง 15 คดี ส่งให้อัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กโจ๊กเผย "แอม" ยอมรับให้ไซยาไนด์ "ก้อย" แต่ยังไม่สารภาพว่าฆ่าใคร