กู่ไม่กลับและไปไกลกว่าที่คาดไว้ แม้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ของพรรคก้าวไกล จะออกมาดับชนวนร้าว ปมตำแหน่งเก้าอี้ประธานรัฐสภา โดยโพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า
ให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับไปพูดคุยผ่านตัวแทนแต่ละพรรคในวงเจรจาจะดีที่สุด
จะดีที่สุดหรือไม่ ไม่มีใครให้ตอบได้ เพราะขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นแกนนำ แฟนคลับหรือด้อม ฝ่ายหนุน ของทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เปิดศึกผ่านโซเชียลกันรัวๆ ซัดกันไปมาคนละหมัดสองหมัด
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงชัดเจนตำแหน่ง "ประธานสภา" เป็นของก้าวไกล
ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ออกแถลงการณ์ยืนยันมีสิทธิได้ตำแหน่งประธานสภา โดยย้ำว่าประธานสภามีหน้าที่เปิดทางผลักดันทุกนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ ไม่ใช่ผลักวาระของพรรคหนึ่งพรรคใดเท่านั้น
ส่วน น.ต.ศิธา ทิวารี หลังเปิดวิวาทะกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่ทันข้ามวัน ก็โพสต์ตอบโต้ทันควัน
ด่ากุ ไม่มีมารยาท จะต่อยกุ ให้กุไปพูดหลังบ้าน ห้ามออกสื่อ ไม่งั้น 141 จะทบทวนตัวเอง ทั้งที่กุไม่ได้พูดเพื่อพรรคตัวเองสักนิด แต่พอตัวเองอยากเป็นประธานสภา ปล่อยลูกน้องออกมาโต้ผ่านสื่อพรึบ เต็มฟีตทุกแฟลตฟอร์ม แย่งชิงตำแหน่งกันแบบไม่อายลุง
ยังไม่จบ ก่อนหน้าที่ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะบินตรงไปพบบิดา นายทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังประชุมพรรคเพื่อไทยเสร็จ
นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ก็ได้ทวีตข้อความ
ต้องทนให้คนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน เอาตีนถีบหน้าอยู่ทุกวันจริงหรือครับ เพื่อนที่โกหก คอยแทงข้างหลังตลอด แต่ต้องช่วยมันเพราะลำพังตัวมันเองก็ไปไม่รอด ไม่ช่วยมันกูก็ผิด ช่วยมันกูก็เจ็บ #ความอดทนบางทีก็มีขีดจำกัด
นายทักษิณ ก็รีทวีตข้อความดังกล่าวทันที ไม่ต้องถามว่าการรีทวีตของเจ้าของพรรคตัวจริง คือการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่
ขณะที่นายดวงฤทธิ์ ออกมาทวีตอีกครั้งว่าเชื่อว่าถ้าพรรคก้าวไกล คิดว่าจำเป็นต้องได้ตำแหน่งประธานสภา และเป็นสิ่งสลักสำคัญถึงเป็นถึงตาย สุดท้ายเพื่อไทยก็คงปล่อยมือให้เขาได้เสนอชื่อไป
ด้านนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ก็ออกมาโพสข้อความว่า เราไม่ได้โปรก้าวไกล แต่เราโปรความถูกต้อง ตามครรลองประชาธิปไตย นี่คือแบบอย่างที่ดีงาม
ส่วน นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฎร ได้โพสต์ข้อความดุเดือด
อยากได้ตำแหน่งประธานสภา เพื่อกัน 112 ไม่ให้เข้าสภา หรือ ถ้าคิดจะช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมสภาพจะไม่ออกมาแบบนี้
ถือเป็นการใช้โซเชียลเปิดศึกน้ำลาย ผ่านแพลตฟอร์มของ ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ของกองหนุน กองเชียร์ เพื่อเรียกน้ำย่อย แต่เมื่อเข้ามาส่อง "ติ๊กต็อก" จะเห็นอีกมุมหนึ่งของแกนนำและแฟนคลับคนเสื้อแดงและกลุ่มด้อมส้ม ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่
"กินรวบ ไม่กินแบ่ง แถมระแวง เพื่อนร่วมทาง ไม่นานคงอับปาง จอดข้างทาง ไร้คนเชียร์" เป็นคำกล่าวของ นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในโลก "ติ๊กต็อก"
ต่างจากผู้ใช้ชื่อ "กูด้อมส้ม" ที่ออกตัวว่า เคยเป็น "ติ่ง" เพื่อไทยที่กลายมาเป็น "ด้อมส้ม" บอกว่า ตัวเองและด้อมส้มหลายคนไม่โอเคกับสิ่งที่เพื่อไทยทำกับก้าวไกล โดยเฉพาะตำการชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานสภา โดยพร้อมยอมให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านเพื่ออีก 4 ปีข้างหน้าจะกลับมาเอาคืน และคอยดูว่าพรรคเพื่อไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไรหากยังไม่ชัดเจน
แม้จะซัดกันนัวในโลกออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์มบนโซเชียลแล้ว แต่ในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. บนโลกออนกราวน์ FC เพื่อไทยก็ยังผุดแคมเปญ "รวมพลคนเสื้อแดง กินมิ้นท์ช็อกและยื่นหนังสือแสดงจุดยืน ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย" ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วย
และต้องตามดูว่า เมื่อ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร กลับจากพบนายทักษิณที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว จะมีการโพสต์หรือทวีตข้อความอะไรทางการเมืองอีกหรือไม่ จึงน่าจับตาว่าสงครามการเมืองบนโลกโซเชียลของแต่ฝ่ายจะมีทิศทางอย่างไร
แม้นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผอ.ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้คำแนะนำโดยเสนอทางลงแบบไร้คลื่นลมให้กับทั้ง 2 พรรคว่า หากยังตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ "นายวันมูอะหมัดนอร์ มะทา" หัวหน้าพรรคประชาชาติ รั้งเก้าอี้ประธานสภา ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มาดูกันว่านักชกคู่เอกพรรคร่วมรัฐบาล "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ที่กำลังเปิดศึกบนแพลตฟอร์มต่างๆ จนกลายเป็น สนามรบบนโลกโซเชียล ฝ่ายไหนจะยอมถอยให้ก่อน
อ่านข่าวเพิ่ม :
ตำนาน "แต่งชุดขาวรอเก้อ" สมบุญ ระหงษ์ ไม่ได้เป็นนายกฯ
เลือกตั้ง2566 : "พิธา" ระบุให้ทีมเจรจาหาทางออก ยังไม่สรุปใครนั่ง "ประธานสภา"
เลือกตั้ง2566 : "วันนอร์" เผยคุณสมบัติ "ประธานสภา" ขอพรรคร่วมอย่าขัดแย้ง