วัดแจง "ทองสุข" ลูกช้างผูกคอลวดหนามล่ามโซ่-ภาพเก่าตอนฝึก

จากกรณีเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation-WDT โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างว่า WDT รับแจ้งจากผู้พบเห็นว่า พบพบลูกช้างที่วัดบางโทง หรือวัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ ถูกผูกคอด้วยลวดหนาม

โดย WDT ระบุว่า เดิมทีน้องเป็นช้างเลี้ยงอยู่บ้านตากลาง หมู่บ้านช้าง จ.สุรินทร์ พออายุ 2 ปีเจ้าของรีบจับหย่านมแล้วส่งไปถวายวัด แต่มีการเลี้ยงน้องแบบขาดความรักความเมตตา แต่ก็ไม่ถึงกับทารุณ

แค่น้องโดนทำโทษบ่อยๆแบบไร้เหตุผลอันควร สภาพจิตใจไม่มีความสุข ใช้ชีวิตแบบระแวง กลัวจะโดนทำโทษตลอด ส่วนลวดหนามที่ผูกคอ เขาอ้างว่าน้องเอาโซ่มาพันตัวพันคอเล่น เลยเอาลวดหนามมาพันคอไว้ 

WDT ส่งเรื่องให้ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ช่วยประสานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบสวัสดิภาพสัตว์ของช้าง ซึ่งอาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ด้วย เพราะการเอาลวดหนามมาแขวนคอช้างน้อย ไม่ใช่เรื่องปกติที่ควรทำ 

ภาพพลายทองสุข ในที่วัดดังเมืองกระบี่ ที่ WDT ระบุว่าพบถูกผูกคอลวดหนาม และถูกล่ามโซ่

วัดออกแถลงการณ์ ลงโทษควาญที่ดูแลช้าง

ขณะที่กองงานประชาสัมพันธ์ วัดมหาธาตุวชิรมงคล ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว ระบุว่า ทางวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งตรวจสอบร่วมกับคณะกรรมการ และปศุสัตว์ จ.กระบี่ โดยชึ่งช้างเชือกนี้ชื่อ "พลายทองสุข" เป็นช้างที่มีตั๋วรูปพรรณ ของช้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อพบว่าควาญช้างได้กระทำพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว จึงได้มีมติลงโทษและตำหนิการกระทำดังกล่าว รวมถึงสั่งห้ามพฤติกรรมนั้นอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด เพื่อมิให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ทั้งนี้ทางวัดยินดีให้ทุกท่านเข้าตรวจดูความเป็นอยู่ของช้างได้ตลอดเวลาว่าช้างเชือกดังกล่าวมิได้มีการถูกทรมาน หรือทารุณกรรมตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด วัดได้จัดให้มีพี่เลี้ยงผู้ดูแลโดยเฉพาะ จัดที่อยู่ให้อย่างเหมาะสม รวมถึงอาหาร และการเลี้ยงดูอื่นๆเป็นอย่างดี ไม่เคยนำช้างไปใช้แรงงานและทารุณกรรมใดๆ 

ขณะที่ไทยพืบีเอสลงพื้นที่ตรวจสอบพบ "พลายทองสุข" ลูกล่ามโซ่ที่ขาหน้า อยู่ในศาลาตั้งอยู่ที่โล่งแจ้ง มีประชาชน ที่เข้ามาท่องเที่ยว ทำบุญที่วัด นำอ้อย ผลไม้ ต้นกล้วย คอยป้อนให้ช้างกิน ลูกช้างมีนิสัยร่าเริง ซุกซน ไม่ตื่นกลัวคน

ตรวจสอบที่คอไม่พบ ลวดหนาม หรือบาดแผลใดๆ ตามลำตัวก็ไม่มีบาดแผลถูกทำร้าย แต่ไม่พบควาญช้าง

ชี้เป็นภาพเก่า-แค่ฝึกช้างให้เชื่อฟังคำสั่ง 

กรรมการวัด ระบุว่าภาพดังกล่าว เป็นภาพเก่า ช่วงแรกๆ ที่นำช้างมาอยู่ที่วัด เป็นการฝึกลูกช้างให้เชื่อฟัง ควาญช้าง ซึ่งเป็นคนภาคใต้ เนื่องจากถูกฝึกโดยควาญช้างจาก จ.สุรินทร์ ทำให้ลูกช้าง ไม่เข้าใจคำสั่งที่เป็นภาษาใต้ ลูกช้างกำลังอยู่ในวัยซุกซน ไม่เชื่อฟัง

การคล้องคอด้วยลวดหนาม ไม่ทำให้ให้ลูกช้างได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่หากดิ้นหรือพยายามใช้งวงดึงออกก็จะเจ็บ ใช้ระยะเวลาไม่กี่วัน ทำให้เชื่อฟังควาญช้าง จึงถอดออก จึงไม่ใช่การทรมานสัตว์ตามที่อ้าง 

เพราะว่าการฝึกช้างให้เชื่อฟังควาญช้างเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อช้างโตขึ้น หากไม่ เชื่อง เชื่อฟังควาญช้างก็จะเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะช้างที่เลี้ยงไว้ ใช้ร่วม ในขบวนพิธีการต่างๆ เช่น ขบวนแห่นาค