ค้าน ครม.รักษาการ รับทราบมติอีอีซีแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน

สังคม
27 มิ.ย. 66
17:03
405
Logo Thai PBS
ค้าน ครม.รักษาการ รับทราบมติอีอีซีแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
‘ประภัสร์’ ค้าน ครม.รักษาการ รับทราบมติอีอีซีแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน หวั่นทำรัฐเสียหายยิ่งกว่าค่าโง่โฮปเวล

วันนี้ (27 มิ.ย.2566) นายประภัสร์ จงสงวน แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และอดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจ และไม่เห็นด้วย กับการที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีวาระรับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่เห็นชอบให้เอกชนผ่อนชำระค่าสิทธิร่วมลงทุนโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (ARL) จำนวน 10,671.09 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาส ออกเป็น 7 งวด และแก้ไขสัญญาร่วมทุนเงื่อนไข "เหตุสุดวิสัย" กรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรค หรือมีสงคราม ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ

เนื่องจาก ครม.ชุดนี้ เป็นรัฐบาลรักษาการจะไม่มีอำนาจแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นำเสนอ ครม.เพื่อทราบ แท้จริงแล้ว คือ "การอนุมัติ" ตามกฎหมายของอีอีซีใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริงจะสร้างปัญหาให้กับโครงการ และสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลชุดใหม่เป็นอย่างมาก

เพราะโดยหลักของทางราชการ สัญญาที่ลงนามไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นสาระสำคัญ โดยคณะกรรมการ อีอีซี ที่ดูแลโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน ที่เสนอ ครม.เพื่อทราบนั้น เป็นสาระสำคัญทั้งสิ้น

โดยเฉพาะการจ่ายเงินช่วยเหลือให้บริษัทผู้ได้รับสัมปทาน ( บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด) คู่สัญญาโครงการรถเชื่อม 3 สนามบิน จากเดิมตามสัญญา คือ "จ่ายเงินเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ" เปลี่ยนเป็น "จ่ายตั้งแต่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง"

ทั้งนี้ ตนทราบมาว่า การแก้ไขสัญญาการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน หัวใจสำคัญของโครงการนี้ คือ การใช้ประโยชน์จากที่ดินมักกะสัน ไม่ใช่การก่อสร้างรถไฟฟ้าใช่หรือไม่

ทั้งนี้ สัญญาการก่อสร้างดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2563 จนวันนี้ยังไม่มีการเริ่มก่อสร้าง หรือ ตอกเสาเข็ม ซ้ำยังมีประเด็นพิพาท รวมถึงประเด็นการส่งมอบแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งตามสัญญาต้องจ่ายเงินการส่งมอบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

แต่กลับพบว่า มีการส่งมอบรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ไปแล้ว แต่จ่ายเงินเพียง 10% ส่วนเงินที่เหลืออีก 90% อยู่ในรายละเอียดของการแก้ไขสัญญาข้างต้น หากไม่พิจารณาอย่างถ่องแท้หรือทำไปโดยความกดดันจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาครัฐยิ่งกว่ากรณีค่าโง่โฮปเวล จึงอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนด้วย

เรื่องนี้หากเป็นจริง คงเป็นกระบวนการที่ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาทำงาน ผู้ที่เข้ามาดูแลกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุผลที่แท้จริงที่ไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้ แม้จะอ้างว่าเพราะสถานการณ์โควิด แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง และจนถึงปัจจุบันสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงมากแล้วจนเป็นโรคประจำถิ่น เหตุใดจึงไม่เร่งก่อสร้าง เหตุใดต้องแก้สัญญา

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 490 บาท 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง