กรณีเพจอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ประกาศตามหากลุ่มนักขี่จักรยานยนต์วิบาก หรือเอ็นดูโร่ มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อเปรียบเทียบปรับโดยระบุว่า “ ขอให้ผู้กระทำผิดลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากเข้าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย” มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 47 พ.ร.บ. อุทยาน แห่งชาติ พ.ศ.2562 หากไม่มาอาจมีความผิดเพิ่มตามมาตรา 51 ไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่” และยังระบุด้วยว่ามีหลักฐานที่แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อส่งมาให้
ทั้งนี้โลกออนไลน์ช่วยกันแชร์กลุ่มผู้ลักลอบทำผิดดังกล่าว ล่าสุดยังมีการแจ้งเตือน ครั้งที่ 1 ขอให้บุคคลในภาพ พร้อมพวกรวม 10 คนลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากมาพบเจ้าหน้าที่ โดยเตือนว่า
หากไม่มาอาจมีความผิด เพิ่มตามมาตรา 51 ไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ออกลาดตระเวนเส้นทางเดินเท้าในป่า พื้นที่ด้านหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังพบการลักลอบขับขี่รถจักยานยนต์วิบาก เข้าพื้นที่หวงห้ามในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
นายปริญญา ทาสม พนักงานพิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
จากการตรวจสอบ บริเวณด้านหลังห้วยตึงเฒ่า มีช่องทางในการลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าสู่พื้นที่อุทยานกว่า 10 เส้นทาง และ สามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นทางอื่นได้ทั้งหมด
นายกริชสยาม คงสตรี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ระบุว่า พื้นที่อุทยานทุกแห่ง ถือเป็นเขตหวงห้าม หากจะเข้าดำเนินการใดๆในพื้นที่ต้อง ได้รับอนุญาตก่อน
ล่าสุดได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงด้านเสียง และพืชบนดินถูกทำลาย หากพบการฝ่าฝืนกระทำผิด ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที