วันนี้ (23 ก.ค.2566) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส เกาะติดการเลือกตั้งในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมานอกจากจะมีชาวกัมพูชามาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว ยังมีบรรดารัฐมนตรีและผู้สังเกตการณ์ทั้งที่ได้รับเชิญจากรัฐบาลและหน่วยงานอิสระ มาติดตามการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน แต่คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ "ฮุน มาเนต" บุตรชายของสมเด็จฮุน เซน ว่าที่ผู้นำกัมพูชาในอนาคต
อ่านข่าว : เปิดคูหาเลือกตั้ง "กัมพูชา" เชิญผู้แทนต่างชาติร่วมสังเกตการณ์
กองทัพสื่อทั้งในและนอกประเทศรุมล้อม "ฮุน มาเนต" รวมถึงบรรดากลุ่มผู้สนับสนุนที่พยายามเข้าถึงตัวเพื่อขอถ่ายรูปร่วมกับว่าที่ผู้นำที่ตนชื่นชอบ จนทำให้ฮุน มาเนต แทบเดินไม่ได้ และต้องมีเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัยอยู่รอบๆ ตั้งแต่เดินเข้าไปใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้งจนกระทั่งกลับบ้าน
ขณะที่นักข่าวจำนวนไม่น้อยพยายามตะโกนถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ และเรื่องที่เขาจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ แต่ ฮุน มาเนต พูดเพียงว่า No Comment ไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ เพราะวันนี้เดินทางมาใช้สิทธิเท่านั้น ไม่ได้แถลงอะไร ก่อนจะเดินทางกลับ
ฮุน มาเนต เดินทางกลับหลังใช้สิทธิเลือกตั้ง ท่ามกลางกองทัพสื่อรุมล้อม
นับตั้งแต่สมเด็จฮุน เซน ประกาศเมื่อปลายปี 2021 ว่า ฮุน มาเนต จะเป็นผู้นำกัมพูชาในอนาคต ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนคือการเดินสายพบปะผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลประเทศต่างๆ
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยในออสเตรเลีย ชี้ว่า เมื่อปี 2019 ฮุน มาเนต เข้าพบผู้นำต่างชาติแค่ 2 คนเท่านั้น ต่างจากในปี 2022 เขาได้พบกับผู้นำประเทศและเบอร์ 2 รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ รวม 10 คน ซึ่งรวมถึง ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ขณะที่ภาพของสมเด็จฮุน เซน พาบุตรชายไปพบกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่กรุงปักกิ่งหลายครั้ง เช่น ปี 2020 และล่าสุดเดือน ก.พ.2023 สะท้อนถึงบทบาทของฮุน มาเนต ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ชาวกัมพูชาทยอยออกมาใช้สิทธิกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศในเมืองค่อนข้างเงียบเหงา ร้านรวงต่างๆ ปิดทำการเพื่อให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ ขณะที่มีรายงานว่า มู โซคัว อดีตรองประธานพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ผู้ใช้สิทธิกาบัตรเสียในการเลือกตั้งครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง