เปิดชีวิต "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" โสด ไร้หนี้ มีร้อยล้าน

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ หรือ "เดอะ โอ๋" อดีตเจ้าของฉายา "ศักดิ์สบายสายเขียว" ปัจจุบันอายุ 60 ปี ภูมิลำเนา จ.สุรินทร์ เป็นลูกของนายชัย ชิดชอบ กับนางละออง ชิดชอบ นายศักดิ์สยามเป็นน้องชายของ นายเนวิน ชิดชอบ และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พี่น้องที่คลานตามกันมา เดินบนเส้นทางการเมืองเดียวกัน แต่ชะตากรรมต่างกัน เพราะชิดชอบผู้พี่เคยเป็นแกนนำกลุ่ม 16 มีประสบการณ์การเมือง สายสัมพันธ์กับบิ๊กการเมืองและข้าราชการอย่างเหนียวแน่น ขณะที่ "เดอะ โอ๋" เดินบนเส้นทางสายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ แม้จะเริ่มต้นชีวิตรับราชการในสังกัดกรมการปกครองก็ตาม 

การทำงาน

• เคยรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
• ลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้เป็น สส. ในปี 2544 และ 2548
• รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
• ปี 2550 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
• 17 ก.ย.2552 ได้มีการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ในรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
• การเลือกตั้งทั่วไป 2557 สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 15 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
• ปี 2562 เขาได้รับเลือกตั้งเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
  • รมว.คมนาคม
  • กรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 
  • กรรมการในคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019  
• 3 มี.ค.2566 ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคําวินิจฉัย 
  • เนื่องจากเป็นหุ้นส่วน และ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และ เป็นเจ้าของที่แท้จริงของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชัน ซึ่งทำให้นายศักดิ์สยามเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบกับพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีปี 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

อ่าน : ศาลรัฐธรรมนูญ ยืนคำสั่ง "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี

อ่าน : ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม

ศักดิ์สยามซุกหุ้น ? 

จากกรณีที่วันนี้ (25 ก.ค.2566) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมคดี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซุกหุ้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชัน จนศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ซุกหุ้นเริ่มต้นจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.กรณีต้องสงสัยมีหุ้นในบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนแห่งหนึ่ง โดยให้นอมินีถือครองหุ้นแทน จากนั้นบริษัทดังกล่าวได้เข้าประมูล ประกวดราคาโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม มูลค่าหลักพันล้านบาท ซึ่งนายศักดิ์สยามนั่งตำแหน่ง รมว.คมนาคม อยู่ด้วย

อ่าน : รอด! มติศาล รธน.ไม่รับคำร้อง"ศักดิ์สยาม" แปรญัติงบเอื้อบริษัท

ต่อมา สส.ฝ่ายค้านจำนวน 54 คน ได้ยื่นเรื่องผ่านประธานสภาฯ ว่า นายศักดิ์สยาม ผู้ถูกร้อง ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชัน อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้นายศักดิ์สยามเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ชั่วคราว 

จนกระทั่งวันที่ 3 มี.ค.2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคําวินิจฉัย กรณีถูกร้องเรื่องถือหุ้นบริษัทเอกชน และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2566 นายศักดิ์สยามได้ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 10 เม.ย.2566 ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี แต่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยกคำร้องของนายศักดิ์สยาม ลงวันที่ 18 เม.ย.2566 โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณียังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติม อันจะเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม

ศักดิ์สยาม โสด ไร้หนี้ รวยร้อยล้าน

จนกระทั่งวันที่ 20 มี.ค.2566 ได้พ้นจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม และ ป.ป.ช.ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในเวลาต่อมา พบว่า นายศักดิ์สยามมีทรัพย์สิน 110 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน แบ่งเป็น

• เงินฝาก 69 ล้านบาท
• ที่ดิน 19 แปลง มูลค่า 34 ล้านบาท
• ยานพาหนะ ประกอบด้วย รถยนต์ TOYOTA Fortuner และ รถยนต์ Volkswagen มูลค่ารวม 2,100,000 บาท
• สิทธิและสัมปทานมูลค่า 240,000 บาท โดยเป็นสัญญาเช่าบ้าน ที่บุรีรัมย์ 120,000 บาท และสัญญาเช่าห้องชุดที่กทม. 120,000 บาท
• ทรัพย์สินอื่น 4,300,000 บาท อาทิ
  • พระเครื่องเลี่ยมทอง
  • งาช้าง 1 คู่
  • สร้อยคอทองคำ
  • นาฬิกาโรเล็กซ์
  • แหวนเพชร 1 วง
  • อาวุธปืน

นอกจากนี้ยังแจ้งอีกว่ามี รายได้ต่อปี 1,682,155 บาท เป็นค่าตอบแทน ส.ส. และ รมว.คมนาคม 1,379,545 บาท ดอกเบี้ยจากธนาคาร 302,610 บาท โดยมีรายจ่ายต่อปี 840,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 600,000 บาท และค่าเช่าบ้าน 240,000 บาท

อ่าน : ป.ป.ช.กางทรัพย์สิน "ศักดิ์สยาม" หลังพ้นเก้าอี้มูลค่า 110 ล้าน