วันนี้ (5 ส.ค.2566) ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกับสัตวแพทย์และสัตวบาลจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และเจ้าหน้าที่จากศูนย์แก้ไขปัญหาช้างป่าฯ เข้ารักษาและอนุบาลดูแล "ตุลา" ลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง เนื่องจากยืนหลับ ไม่ยอมล้มตัวลงนอนติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีอาการเจ็บและอักเสบบริเวณขาหน้าทั้ง 2 ข้าง รวมไปถึงขาหลังขวา การย่างเดินผิดปกติ มีอาการบวมน้ำอักเสบบริเวณไหล่ข้างซ้าย ส่วนปัญหาระบบกล้ามเนื้อและกระดูก จากการถ่ายภาพเอกซเรย์พบว่ามีภาวะกระดูกบาง
ภาพ : ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 - กระบกคู่ จังหวัดฉะเชิงเทรา
สำหรับสาเหตุที่ไม่ยอมล้มตัวนอน เนื่องจากเจ็บขา และผลของการไม่ยอมล้มตัวนอนเป็นเวลาหลายวัน ทำให้บริเวณปากมีแผลจากการใช้งวงจับคอกไม้เพื่อพยุงน้ำหนักตัว เจ้าหน้าที่จึงหุ้มคอกไม้ด้วยผ้าเพื่อลดการสัมผัสกับไม้โดยตรง ล้างปากและพ่นสเปรย์นาโนรักษาแผลในปาก รวมถึงปูพื้นคอกด้วยแผ่นยางหนาเพื่อลดแรงกดทับจากการยืนเป็นเวลานานในคอกพื้นปูน
สัตวแพทย์ยังทำเลเซอร์บริเวณขาทุกข้างที่มีการอักเสบและเจ็บ รวมถึงหัวไหล่ข้างซ้าย ทำการรักษาด้วยเครื่องแม็กเนติก (Magnetotherapy Vet เครื่องมือแพทย์ที่ทำการรักษาด้วยพลังงานสนามแม่เหล็ก) เพื่อเพิ่มความหนาแน่นตัวของกระดูก ลดบวมช้ำ ลดปวด ลดอักเสบ เร่งกระบวนการงอกของกระดูก กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย
ภาพ : ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 - กระบกคู่ จังหวัดฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ สัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวด ร่วมกับประคบเย็นและร้อนตามจุดต่างๆ ที่บวมและอักเสบ เสริมแคลเซียม วิตามินบีรวมบำรุงปลายประสาท วิตามินซีเพิ่มภูมิคุ้มกันและยาบำรุงข้อให้กินทุกวัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา สัตวแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเลือดและสวอปช่องปาก เพื่อตรวจหาเฮอร์ปีส์ไวรัส โดยผลการตรวจตัวอย่างเลือดและสวอปช่องปากให้ผลเป็นลบ ผลตรวจเลือดมีค่าตับสูงกว่าปกติ ค่าแคลเซียมต่ำกว่าปกติ และค่าเอนไซม์กล้ามเนื้อสูงกว่าปกติมาก ปัสสาวะปกติ ถ่ายอุจจาระเป็นก้อน อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์และพี่เลี้ยงจะดูแลใกล้ชิดและเฝ้าระวังอาการตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ : ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 - กระบกคู่ จังหวัดฉะเชิงเทรา
อ่านข่าวอื่นๆ
ช้างป่า "ตุลา" ใช้สัญชาตญาณตอบสนองสิ่งเร้ามากกว่าปกติ เหตุระแวง
เตรียมสปาเล็บ "พลายศักดิ์สุรินทร์" เลื่อนกักโรครอผล 18 ส.ค.นี้
กรมอุทยานฯ ยันไม่ปลด "ลิงแสม" พ้นสัตว์ป่าคุ้มครอง-ห่วงถูกล่า