นมแม่ หยดแรกเปรียบเสมือนวัคซีนในการป้องกันโรค เพราะมีภูมิคุ้มกันโรค มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่ช่วยในการเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เด็ก นมแม่ของสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก รวมถึงแร่ธาตุและภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง และจอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ แนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ กินนมแม่ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียว ในช่วง 6 เดือนแรก และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม
อ่านข่าว : หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%
เด็กทารกที่เกิดใหม่ยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์ น้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสำหรับเด็ก เพราะมีภูมิคุ้มกันโรคจำนวนมากที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย การได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ทารกเติบโตได้สมบูรณ์แข็งแรง
เหนือสิ่งอื่นใด ขณะที่แม่ให้นมจะต้องโอบกอดลูกไว้ข้างนอก แม่ลูกสบตากัน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นวิธีสร้างสายใยความรักความผูกพันที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งระหว่างแม่กับลูก
นมแม่ ของสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก รวมถึงแร่ธาตุและภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง และจอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นมแม่อาหารวิเศษสุดสำหรับลูก
ประโยชน์น้ำนมแม่ต่อลูกน้อย
• ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค
• ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้
• ลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ปอดบวม และโรคหืด
• ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และพัฒนาการมองเห็นให้ดีขึ้น
• ไตขับของเสียน้อยกว่า
• ลดโอกาสท้องเสีย ลำไส้อักเสบ และช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
• ลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ เมื่อโตขึ้น เช่น เบาหวาน อ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดัน
• ฟันกรามล่างแข็งแรง เกิดฟันเกน้อยลง
ประโยชน์ของการให้นมลูกดีต่อคุณแม่
• ลดโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านม และป้องกันโรคกระดูกพรุน
• ช่วยให้คุณแม่สามารถลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น และทำให้รูปร่างกลับคืนสู่สภาพเดิมเร็วขึ้น
•มดลูกหดรัดตัวดี เข้าอู่เร็ว ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
• ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะนมแม่สามารถผลิตได้เองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
• สามารถให้ลูกกินได้ทุกที่ ทุกเวลา
นอกจากนี้การโอบกอด การสบตา พูดคุยของแม่ขณะให้นมลูก ทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงาน ส่งผลให้เส้นใยในสมองแตกกิ่งก้านสาขา มีผลต่อการคิด เรียนรู้ การจินตนาการ ผลวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าเด็กที่กินนมแม่จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กิน 5 – 11 จุด
นมแม่อาหารวิเศษสุดสำหรับลูก
แม่ที่ให้นมบุตรควรดูแลตัวเองควบคู่กันไป
1.ควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมาก เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและทดแทนน้ำที่เสียไป ร่างกายจะไม่อ่อนเพลีย
2.พักผ่อนให้เพียงพอ ให้สามีช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่งานบ้าน เพื่อร่างกายแม่จะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
3.นำถุงร้อนหรือผ้าประคบร้อนมาคลึงบริเวณเต้านมก่อนจะให้นมลูก ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและทำให้คุณแม่ผ่อนคลายลง
4.ทานบ่อยๆ แต่เน้นอาหารที่เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายของแม่และดูแลรูปร่างหลังคลอด เช่น การทานอาหารเพิ่มน้ำนม โดยลดคาร์โบไฮเดรตและไขมันลง โดยเฉพาะ ชา กาแฟ
5.ในเวลาที่ลูกหลับ คุณแม่ควรจะปั้มนมและแช่ในตู้เย็นไว้ เพราะหากติดภารกิจใดๆ ก็ยังสามารถนำนมที่เตรียมไว้ มาแช่ในน้ำอุ่น และให้ลูกดื่มได้
อาหารที่บำรุงน้ำนม
ในระยะให้นมลูกแม่ต้องการพลังงานและสารอาหารเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหารให้เพียงพออย่างมีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมารับประทาน เพราะอาจเป็นเหยื่อของการโฆษณาเกินจริง ขอแนะนำให้บริโภคผักที่ช่วยให้น้ำนมของแม่เพิ่มขึ้นและหาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น หัวปลี ใบกะเพรา ใบโหระพา เมล็ดขนุนต้ม พริกไทย ขิง ฟักทอง มะรุม ใบแมงลัก กุยช่าย ตำลึง มะละกอ ฟักทอง พุทรา รวมทั้งใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นน้ำนม เช่น แปะตำปึง อาจนำมาทำเมนู เช่น แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย , กระทรวงสาธารณสุข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
12 สิงหาคม "วันแม่แห่งชาติ 2566" มีความเป็นมาอย่างไร
ที่มาที่ไป "ดอกมะลิ" สื่อรักวันแม่
10 สายพันธุ์ "ดอกมะลิ" น่าปลูก ดอกไม้แทนรักบริสุทธิ์ของแม่
เช็ก! วันหยุดราชการ วันหยุดยาว สิงหาคม-ธันวาคม 2566
วันหยุดเดือนสิงหาคม 2566 เช็กวันหยุดยาว วันหยุดธนาคาร วันพระ