วันนี้ (9 ส.ค.2566) นายมุข สุไลมาน เลขาธิการประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน โดยเฉพาะการตัดสินใจกับการประชุมสภาว่า เลือกปฎิบัติ กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่
นายมุข ชี้แจงว่า นายวันอร์ ยึดมั่นตามหลักการความถูกต้อง ความเป็นธรรมเป็นหลักสำคัญ อะไรถ้าไม่เป็นไปตามหลักการไม่ถูกต้อง ท่านจะรับไม่ได้ ไม่ยอมรับ จะไม่ยอมรับจากแรงกดดันหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นทุกอย่างที่ประธานรัฐสภาตัดสิน ท่านก็ฟัง ไม่ว่าใครจะกล่าวยังไงพูดยังไง ทั้งในสภาและนอกสภา
ประธานรัฐสภา คำนึงถึงตลอดว่าสิ่งที่ตัดสินผิดพลาด หรือบกพร่องตรงไหน ถ้าหากว่า มีการกล่าวพูดท้วงติง หรือว่าอะไรก็ตาม แต่หรือยื่นเสนออะไรก็ตาม ถ้าสมมติว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ยืนยันว่าท่านก็จะปฏิบัติตาม ไม่มีการลำเอียงใดๆทั้งสิ้น ซึ่งอาจารย์วันนอร์ ปฏิบัติมาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา ตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น
อ่านข่าว “เพื่อไทย” เตรียมจับมืออีก 5 พรรคแถลงตั้งรัฐบาล 9 ส.ค.นี้
นายมุข กล่าวอีกว่า การทำงานที่ผ่านมาเมื่อทำอะไรแล้ว ก็ต้องมีความคิดเห็นมากกว่า 1 ฝ่ายอย่างแน่นอน เมื่อตัดสินแล้วฝ่ายที่เห็นด้วยก็อาจจะชมเชยแต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็จะตำหนิติเตียน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา อาจารย์ วันนอร์ก็ยอมรับได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนสบายใจได้
การทำงานตอนนี้ ต้องยอมรับว่ามันบิดเบี้ยวของกฎหมายในรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น จึงติดขัด เช่น จะเลือกนายกฯ ปกติไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรถ้ากฎหมายตามรัฐธรรมนูญเป็นไปตามธรรมชาติที่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเลือกวันเดียวครึ่งวันก็จบแล้ว
ทั้งนี้ นายมุข กล่าวว่า บางคนบอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญปลอม เป็นรัฐธรรมนูญโจรหรือ ต่างๆ นานาที่กล่าวหา ดังนั้นการปฏิบัติที่อาจจะมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย หรือขัดแย้ง แต่ถ้าจะตำหนิก็ต้องตำหนิผู้ร่างรัฐธรรมนูญ มากกว่าคนปฏิบัติ คนปฏิบัติเองก็ยอมรับว่าลำบาก ในลักษณะที่ต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันจะมีความจำเป็นที่จะต้องร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่
อ่านข่าว เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนตัว เห็นด้วยว่าถ้าแต่งตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ก็ควรที่จะเริ่มต้นด้วยการเอากฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่มาบ้าง เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญนี้ มันใช้ไม่ได้และเห็นใจบางคนอาจจะตำหนิประธานรัฐสภาในการทำงาน
แม้ว่าใครจะตำหนิ แต่ประธานรัฐสภา ก็ได้ยึดหลักการและเข้าใจว่าประชาชนคนทั้งประเทศ อาจจะไม่เข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิด เกี่ยวกับข้อกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ที่จะต้องยึดรวมกับหลักปฏิบัติเป็นสำคัญ
บางคนอาจจะเอาความรู้สึกมาตัดสิน จนกระทั่งเกิดการต่อว่าต่อขาน แต่ยืนยันว่าประธานรัฐสภา ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร พร้อมทำความเข้าใจกับประชาชน ทุกเมื่อ
ยืนยันว่ประธานรัฐสภาและคณะทำงานไม่ได้ลำบากใจอะไรเพราะได้ยึดถือความตรงไปตรงมา ไม่ได้บิดเบี้ยวหรือว่าไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ภูมิธรรม" พร้อมขอโทษ "ก้าวไกล" ขอคุยช่วยโหวตนายกฯ