ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตร.เตือน "ใบสั่งค้างจ่าย" ปรับเพิ่ม 2 พันต่อครั้ง งดออกป้ายภาษี

อาชญากรรม
13 ส.ค. 66
11:03
8,622
Logo Thai PBS
ตร.เตือน "ใบสั่งค้างจ่าย" ปรับเพิ่ม 2 พันต่อครั้ง งดออกป้ายภาษี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษกตร. เตือนผู้มีใบสั่งค้างชำระ อย่าปล่อยให้มีใบสั่งค้างจ่าย อาจโดนค่าปรับเพิ่มครั้งละ 2,000 บาท ตัดแต้มจราจร 1 คะแนน และเสี่ยงถูกงดออกเครื่องหมายแสดงภาษี

วันนี้ (13 ส.ค.2566) พ.ต.ท.ธเทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ได้รับใบสั่งให้เสียค่าปรับจราจรอย่าปล่อยให้ค้างชำระ เพราะอาจะไม่ได้ได้รับเครื่องหมายแสดงภาษี และหากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับเพิ่มเติมในอัตราค่าปรับที่สูงอีกด้วย

ทั้งนี้ตามมาตรการ เสริมสร้างวินัยจราจรลดการกระทำผิดซ้ำเพื่อลดอุบัติเหตุ” ที่ได้เริ่มต้นการรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นมาตรการตาม ม. 141/1 ของพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 เชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกรมการขนส่งทางบก 

ปรับ 2,000 บาทต่อครั้งตัด 1 แต้ม

สำหรับใบสั่งที่ผู้ขับขี่ไม่ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนด ใบสั่งทุกประเภท ทั้งแบบที่เขียนโดยเจ้าพนักงานจราจร รวมถึงใบสั่งกล้องที่ส่งทางไปรษณีย์ และทั้งใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ และเจ้าพนักงานจราจรออกหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับตามใบสั่งอีกครั้ง ก็ยังฝ่าฝืนไม่ชำระค่าปรับในกำหนดเวลาตามหนังสือแจ้งเตือน ถือเป็น “ใบสั่งค้างชำระ” ซึ่งเมื่อไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปีนั้น หากขอชำระภาษีโดยไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งค้างชำระไปในคราวเดียวกันนั้น

นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปีแต่จะไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) ให้ โดยจะออกหลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษีซึ่งมีอายุ 30 วันให้ไปพลางก่อน เพื่อให้ไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน จึงจะมารับป้ายภาษีได้

นอกจากนี้หากยังฝ่าฝืนไม่ไปชำระค่าปรับ และยังใช้ยานพาหนะบนท้องถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินถึง 2,000 บาทต่อครั้งตาม มาตรา 60 ของ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และทั้งจะถูกตัดคะแนนจราจรอีก 1 คะแนนต่อครั้ง อาจเป็นเหตุให้ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

เช็กช่องทางตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกต่อประชาชน หากผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ ไม่แน่ใจว่าตนเองมีใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับ หรือมีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ สามารถลงทะเบียนใช้งานและตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th หรือตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ โดยชำระค่าปรับตามใบสั่งหรือใบสั่งค้างชำระได้ดังนี้

  • สถานีตำรวจทุกแห่ง ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
  • สำนักงานไปรษณีย์ทุกสาขา
  • จุดรับชำระเงินในเครือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
  • ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยหรือตู้บุญเติม
  • ชำระผ่าน แอปพลิเคชันกรุงไทย next แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
  • ชำระผ่านบัตรเครดิต ผ่านเว็บไซต์ E-Ticket PTM : https://ptm.police.go.th/eTicket
  • ชำระที่เคาน์เตอร์บริการที่มีสัญลักษณ์ PTM เช่น family mart / top supermarket / ไทวัสดุ 
  • หรือชำระผ่านระบบ Mobile Banking หรือ Internet Banking ของทุกธนาคาร 

หากผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะไม่มีใบสั่งคงค้าง หรือชำระค่าปรับเสร็จสิ้นแล้วก่อนการต่อภาษีประจำปี ก็จะสามารถได้รับป้ายการเสียภาษีทันทีที่ต่อภาษี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง