ภาพแรก เป็นมุมกล้องที่ชายคนหนึ่งเดินสอดส่องไปตามห้องพักฟื้นใน รพ. ซึ่งห้องหนึ่งมี 4-5 เตียง ในมือมีกระเป๋าสีดำ
ผู้ก่อเหตุเตรียมก่อเหตุ
ผู้ก่อเหตุเตรียมก่อเหตุ
อีกมุมหนึ่ง จะเห็นช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุ นำเด็กใส่ถุงสีดำที่เตรียมไว้ ทั้งที่เด็กทารกเพิ่งคลอดได้ 2 วัน คอยังอ่อนอยู่
ผู้ก่อเหตุนำเด็กใส่ถุง
ผู้ก่อเหตุนำเด็กใส่ถุง
กล้องมุมสุดท้าย คือ หน้า รพ. จะเห็นว่าผู้ก่อเหตุรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไป เวลาที่ขับออกไปคือ 03.44 น. ของวันที่ 13 ส.ค. ตรงรถจักรยานยนต์จะเห็นถุงที่ใส่เด็กไว้ห้อยอยู่ที่แฮนด์รถ
ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์พาเด็กหนีไป
ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์พาเด็กหนีไป
หลังจากนั้น แม่เด็ก ตื่นขึ้นมาตอนตี 4 ไม่เห็นลูก เลยถามคนที่อยู่ร่วมห้องและแจ้งพยาบาล จนทราบว่ามี "ผู้ชาย" ผิวขาว มาอุ้มไป พยาบาลจึงแจ้งตำรวจ
อ่าน : ผู้ก่อเหตุรับสารภาพขโมยทารกจาก รพ. - ปฏิเสธเกี่ยวคดี "น้องต่อ" วัย 8 เดือน หายปริศนา
เด็กอาการสาหัส ตาซ้ายบวม-สมองบวม
ตำรวจใช้เวลา ประมาณ 7 ชั่วโมงตามตัวผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) ผู้ก่อเหตุได้นำเด็กมาคืนแม่ที่นั่งรออยู่หน้า รพ.
อาการโดยรวมของเด็กหลังนำส่งคืนโรงพยาบาล
อาการโดยรวมของเด็กหลังนำส่งคืนโรงพยาบาล
สภาพเด็ก มีอาการ ตาซ้ายบวมจนตาปิด อาการติดเชื้อ สมองบวม 4 ซม. ออกซิเจนต่ำ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุใช้นมกล่องให้เด็กดื่ม ทั้งที่เพิ่งคลอดได้ 2 วัน ครอบครัวย้ายเด็กไป รพ.ศูนย์นครปฐม ตั้งแต่วานนี้ เพื่อรักษาอาการต่อไป ล่าสุด แม่ของเด็กทารก ให้สัมภาษณ์ว่าลูกยังมีอาการสมองบวม พรุ่งนี้รอเอ็กซเรย์ ซึ่งขณะนี้ รพ. ที่เกิดเหตุ และครอบครัวผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อมา
ตำรวจพบความเชื่อมโยงคดี "น้องต่อ"
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายนันทจักษ์ ศิลป์ประเสริฐ อายุ 43 ปี หรือชาวบ้านเรียก "เจ๊นัน" อ้างว่าคิดว่าเด็กเป็นลูกของแฟนเก่า ซึ่งเลิกกันไปแล้วและคิดว่าแฟนเก่าไปมีภรรยาและมีลูก จึงตั้งใจขโมยเอามาเลี้ยง
ตำรวจขยายผล ตำรวจ สภ.บางเลน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงไปตรวจบ้านผู้ก่อเหตุอีกครั้งช่วงเช้าวันนี้พบว่า บ้านผู้ก่อเหตุที่ ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม อยู่ตรงข้ามบ้านของ "นิ่ม" ผู้ต้องหาคดี "น้องต่อ" ลูกชายของเธอที่หายไป เป็นคดีใหญ่เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
สิ่งที่ตำรวจพบในบ้านผู้ก่อเหตุ มีข้อสังเกตคือ สมุดบัญชี คิวอาร์โค้ด และรูปเด็ก เป็นจำนวนมาก
ผู้ก่อเหตุอ้างเงินเข้า 60,000 บาท ไม่เกี่ยวซื้อขายเด็ก
มีรายงานว่า ตำรวจสอบถามผู้ก่อเหตุ พบเงิน 60,000 บาท โอนเข้าบัญชีของผู้ก่อเหตุ วันที่ 6 ก.พ.2566 ช่วงเดียวกับที่ "น้องต่อ" หายตัวไป แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของน้องต่อ แต่เป็นเงินที่ได้จากเบี้ยกองทุนสะสม
ความเชื่อมโยงคดีน้องต่อ
ความเชื่อมโยงคดีน้องต่อ
ส่วนคิวอาร์โค้ดที่พบจำนวนมาก เพราะต้องการสมัครกองทุน แต่สมัครไม่เป็น ทำให้เจ้าหน้าที่ส่งมาเยอะ ขณะที่รูปภาพเด็กที่พบรวมถึงรูปน้องต่อ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า บันทึกรูปมาจากอินเทอร์เน็ตในช่วงที่เป็นข่าว
ทางด้านแม่ผู้ก่อเหตุเล่าว่า "เจ๊นัน" ไปขโมยเด็กทารกออกมาจากโรงพยาบาล และพากลับมาอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ขณะนั้นคนในบ้านไม่ทราบ จนช่วง 11 โมง มีคนบอกว่าเห็นข่าว มีชายคล้าย "เจ๊นัน" ขโมยเด็กจากโรงพยาบาล จึงไปเคาะห้องเรียกลูก จึงพบเด็ก และเจ๊นันได้ส่งเด็กให้ตนเองอุ้ม และจะรีบนำเด็กขึ้นรถไปส่งคืนโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย เพราะเพิ่งคลอดได้ 2 วันเท่านั้น
แม่ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าลูกชายเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่ไม่เกี่ยวกับขบวนการการซื้อขายเด็ก หรือ การค้ามนุษย์ ไม่เกี่ยวกับการโอนซื้อขายเด็ก 60,000 บาท ตามที่เป็นข่าว แต่สันนิษฐานสาเหตุที่ลูกก่อเหตุ
- มีปัญหาทางสภาพจิต
- คิดว่าเด็กทารก เป็นลูกแฟนเก่าที่เลิกไปแล้ว เมื่อปี 10 ปีก่อน
- ติดยาเสพติด
จากข้อมูลที่ตำรวจบอก ส่วนเรื่องเงินเชื่อว่าลูกคิดเอาเองว่ามีเงินเยอะ เพราะเคยทำธุรกิจแล้วล้มละลายเมื่อหลายปีที่แล้ว ปัจจุบันตกงาน ไม่มีรายได้ และแม่เป็นคนเลี้ยงดู
แม่ "น้องต่อ" ยืนยัน "นัน" ไม่เกี่ยวข้องคดี
ส่วนกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนี้จะเชื่อมโยงกับการหายตัวไปของ "น้องต่อ" เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2566 หรือไม่ "นิ่ม" แม่ของน้องต่อ ผู้ต้องหา ยืนยันว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ คดีถึงชั้นอัยการแล้ว ซึ่งวันที่น้องต่อหายไป "เจ๊นัน" ออกมาช่วยหาด้วย ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยว
อ่าน : ศาลเยาวชนฯ ปล่อยตัว "แม่เด็ก 8 เดือน" - ฟังคําสั่งฟ้อง 25 ก.ค.
ล่าสุด ผอ.รพ.บางเลน ออกมาขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก