วันนี้ (18 ส.ค.2566) ความคืบหน้ากรณีอดีตแพทย์อายุรกรรม และอดีต ผอ.ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษา เกษียณราชการ ถูกหลอกโอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหายกว่า 101 ล้านบาท โดยมิจฉาชีพหลอกว่ามีพัสดุผิดกฎหมายแล้วปลอมตัว เป็นผกก.สภ.เมืองเชียงราย สนทนาเพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว จนสามารถหลอกให้โอนเงินไปทั้งสิ้น 101,871,381 บาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเดือนก.ย.2565
ตำรวจชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สืบพบข้อมูลแหล่งกบดานใน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัว ซึ่งผู้ต้องหาคนนี้ เป็นคนสำคัญในขบวนการดังกล่าว และยังเป็นบุคคลตามประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
ลำดับที่ 249 ด้วย
โดยสามารถจับตัวได้ในบ้านพัก จากนั้นแจ้งข้อหล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ และร่วมกันฟอกเงิน”
ผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า เดิมเคยประกอบอาชีพเป็น รปภ. แต่มีปัญหาทางการเงินจึงสมัครงานผ่านเพจหางานคาสิโนในเฟชบุ๊ก โดยแอดมินเพจแจ้งเพียงว่ามีลักษณะการทำงานเป็นแอดมินตอบโต้ลูกค้า จึงเดินทางข้ามชายแดนทางพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วมีคนมารับข้ามไปยังประเทศกัมพูชา
เมื่อไปถึงพบว่า เป็นการทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงประชาชนให้โอนเงิน โดยจะมีคนสอนให้พูดตามสคริปต์ให้รับบทเป็น ผกก.สภ.เมืองเชียงราย นอกจากเงินเดือน จะมีค่าคอมมิสชั่นเพิ่มหากทำงานถึงยอดตามเป้า โดยได้เดินทางกลับมาไทย หลังทำงานครบสัญญาจ้าง