พบเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ในภาคเหนือ ลดลงกว่า 40 % หลังรัฐบาลใช้มาตรการตัดไฟ-อินเทอร์เน็ต-งดส่งน้ำมันไปประเทศเพื่อนบ้าน และ ซีลชายแดนมากว่า 1 เดือน ล่าสุดตำรวจยังเร่งสาวตัวการใหญ่ และเครือข่ายในประเทศ ขณะที่ภาคประชาชนคาดหวังภาครัฐเร่งติดตามเงินคืนผู้เสียหาย
ตำรวจไซเบอร์สอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีคอลเซนเตอร์ ที่ถูกส่งตัวมาจากสระแก้วอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพเต็มใจไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ ฝั่งปอยเปต ส่วนนายจ้างคาดว่าเป็นชาวจีน เพราะสื่อสารภาษาจีนผ่านล่าม ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผล เบื้องต้นออกหมายจับแล้ว 2 คน
กองกำลังบีจีเอฟ (BGF) เรียกร้องรัฐบาลไทย และรัฐบาลทุกประเทศ เร่งรับตัวชาวต่างชาติ ที่ให้การช่วยเหลือจากแก๊งคอลเซนเตอร์ ล่าสุดมีจำนวนกว่า 6,500 คน ส่วนกระแสข่าวที่ทางการจีนจะส่งเครื่องบินมารับชาวจีน ชุดที่ 2 ประมาณ 900 คน แหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนระบุว่า ยังต้องรอการยืนยันจาก สมช.
ชื่อที่อาจได้ยินบ่อยครั้งในข่าวการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ คือ "หลิว จงอี" (Liu Zhongyi) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน "หลิว จงอี" เป็นบุคคลที่มีความสามารถสูงในการปราบปรามอาชญากรรม และเป็น 1 ใน 5 บุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษต้นแบบด้านความมั่นคงสาธารณะ
กรณีการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา พบผู้ร่วมขบวนการ-ผู้เสียหายรวม 260 คน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ของไทยเผยข้อมูลว่าในจำนวนดังกล่าวมีเพียง 1 คนที่ถูกหลอกไปทำงาน นอกนั้นสมัครใจไปทำงาน ทำให้ถูกท้วงติงว่าเป็นการด่วนสรุป ที่อาจทำให้เหยื่อกลายเป็นผู้ร่วมขบวนการ จนไม่ได้รับการคุ้มครองนั้น วันนี้ (17 ก.พ. 68) นายกัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ตั้งข้อสงสัยว่า ขณะนี้กลุ่มจีนเทา ซึ่งมีเจ้าของ-นักธุรกิจ ที่ถูกจับในไทย ถูกเคลื่อนย้ายไปรวมกัน และมองการเข้ามาของ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะนำตัวแก๊งคอลเซนเตอร์กลับจีนทันทีว่า ในเมื่อไทยเป็นทางผ่านของขบวนการนี้ ฉะนั้นไทยควรต้องได้จัดการเอง อย่างน้อยเพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลแก๊งคอลเซนเตอร์ เขาทำกันอย่างไร ใครเป็นใคร เพื่อนำมาออกแบบระบบป้องกันและปราบปราม ไม่ใช่ส่งกลับให้จีนไปหมด แล้วไทยจะได้อะไร สุดท้ายถ้าจีนได้ข้อมูลไป เราจะขอข้อมูลเขาอย่างไร