สลายสีเสื้อแดง-เหลืองสำเร็จ หรือไม่ ยากคาดเดา แต่ที่แน่ๆ เกมการเมืองของคู่ขัดแย้งในอดีต “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ขวัญใจมวลชนคนเสื้อแดงเดินทางกลับมาแผ่นดินเกิดแล้วหลังจากไปนาน 17 ปี ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ทักษิณบอกกับบีบีซีไทยว่า “วันนี้ให้อภัยทุกคนแล้ว”
ขณะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตรองนายกฯ และแกนนำ กปปส. ก็พ้นผิดหลัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ และพวก 6 คน ในคดีร่วมกันกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก หรือแฟลตตำรวจ จำนวน 396 แห่ง
“คนดีทั้งหลาย ก็สมควรจะมีกำลังใจ ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครอง” สุเทพ ระบุ หลังศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน
ไม่เกินคาด หลังเท้าเหยียบแผ่นดินไทย “ทักษิณ” ในวัย 74 ปี ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าไปอยู่แดน 7 โดยกรมคุกแยกขังเดี่ยว จัดให้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากสูงวัย มีอาการป่วย 4 โรค คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง, ปอดอักเสบ เนื่องจากเคยติดโควิด-19 ,ความดันสูง และร่างกายเสื่อมสภาพ จึงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ส่วน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้หายไปไหน “ดร.กานต์” รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า นายกฯ มอบเสื้อผ้าไหมไทยแก่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต่อยอดความสำเร็จจาก APEC 2022 ผลักดันความร่วมมือด้านแฟชั่นไทยในฝรั่งเศสจำนวน 2 ชุด
และหวังว่าจะเป็นโอกาสในการปูทางไปสู่ความร่วมมือด้านการเผยแพร่ผ้าไหมไทยในฝรั่งเศส ซึ่งไทยยืนยันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี 2567
ขณะที่บรรยากาศโหวตนายกฯในสภา กำลังถกเดือด ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ก็ดอดเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แม้จะเปลี่ยนรถจากคันเดิมที่ใช้ประจำเป็นคันอื่น แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นสายตานักข่าวที่เห็นว่า ดร.วิษณุเดินขึ้นรถและขับออกไปจากเรือนจำ
ดร.วิษณุ บอกว่าเข้ามาพูดคุยในฐานะรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้พูดคุยกับผบ.เรือนจำพิเศษกรุง เทพมหานคร และรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้มีการแต่งตั้งไว้ตั้งแต่มีข่าวว่านายทักษิณจะเดินทางกลับมาไทย ซึ่งไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรมาก เพราะได้มีการหารือมาแล้วล่วงหน้า
สำหรับประเด็นการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณนั้น ดร.วิษณุ บอกว่าเป็นเรื่องที่ต้องยื่นฎีกาต่อพัศดีเรือนจำ สะดวกยื่นเมื่อไรก็สามารถทำได้ทันที โดยขั้นตอนจะต้องส่งผ่านกระทรวงยุติธรรมไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี หากได้รับความเห็นชอบจะทูลเกล้าฯ ต่อไป จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่พระบรมราชวินิจฉัย โดยสามารถยื่นฎีกาในวันพรุ่งนี้ได้เลย
ส่วนบรรยากาศโหวตนายกฯเป็นไปตามเกมการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลเสียงไม่แตก แต่มาไม่ครบ 314 เสียง ขาด “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะสส.งดร่วมประชุมสภา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกพรรค 39 เสียง
เป็นเหตุสังเกตได้ว่าสว.สายทหารเสียงแตกชัดเจน เมื่อน้องชายลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ คือ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา และ “บิ๊กเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาครโหวตเห็นชอบให้เศรษฐา ทวีสิน นั่งนายกฯ
ขณะที่พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สาย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ซึ่งออกมาท้วงติงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ไม่เห็นชอบและไม่ไว้ใจให้เศรษฐานั่งนายกฯ
แล้ว “งูเห่า” ค่ายสีฟ้าก็มาเมื่อ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาราเล่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นชอบสวนมติพรรคฯที่งดออกเสียง ต่างจาก “ชวน หลีกภัย” ที่ไม่เห็นชอบเช่นเดียวกับบัญญัติ บรรทัดฐาน
แม้การเมืองยกแรกนอกและในสภาจะจบลงด้วยดี เพื่อไทยมีชัย ทักษิณ ได้กลับบ้าน และเศรษฐา นั่งนายกฯคนที่ 30 แต่สงครามยังไม่จบ การเมืองก็เป็นเช่นนี้ ตถตา