เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2566 เกิดเหตุส่วนต่อเติมของอาคารเก่าบริเวณหน้าปากซอยเจริญกรุง 72/5 ทรุดตัว ขวางเส้นทางจราจรและทับรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน หลังฝนตกหนักในพื้นที่กทม.
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง และฝ่ายโยธาสำนักงานเขตบางคอแหลม และตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่ามีผนังของอาคารสูง 3 ชั้นทรุดตัวลงมา
จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนที่ทรุดตัวเป็นผนังต่อเติมของตัวอาคาร ขนาดใหญ่มีศาษซากโครงเหล็กและแผ่นยิปซัม และแผนปูนกันสาดของอาคารทรุดตัวลงมา ทำให้รถยนต์ของชาวบ้านที่นำมาจอดไว้ใกล้อาคารได้รับความเสียหาย
รวมถึงสายสื่อสาร เสาไฟ ป้ายปากซอย และเสากล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เร่งตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบเกิดอันตรายได้
พบเสาไฟฟ้า ป้ายซอย กล้องวงจรปิดเสียหาย
นายวิทยา เกตุแก้ว อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลอาคารดังกล่าว เผยว่าขณะเกิดเหตุตัวเองได้เข้าไปอาบน้ำภายในอาคาร ก่อนได้ยินเสียงฟังถล่มลงมา จึงรีบโทรแจ้งคนที่รู้จักประสานงานเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยเผยอีกว่าปกติตัวเอง จะนั่งอยู่บริเวณใต้โครงสร้างที่ทรุดตัวลงมา ถือเป็นความโชคดีที่ในขณะเกิดเหตุนั้นตัวเองไม่ได้อยู่ในที่ประจำ จึงทำให้รอดชีวิตออกมาได้
เสาไฟฟ้า-รถยนต์-ป้ายซอยพังยับ
ด้านนายสายัณห์ กุศลพันธ์ หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางคอแหลม เผยว่าจากการตรวจสอบพบว่าตัวอาคารยังแข็งแรงมั่นคงดี แต่ส่วนที่พังทรุดลงมาเป็นส่วนของกันสาดปูนที่อยู่กับตัวอาคารมานานกว่า 40 ปี ที่รับน้ำหนักของโครงเหล็กและแผ่นยิปซัมที่ต่อเติมอาคาร
เสื่อมสภาพและรับน้ำหนักไม่ไหวประกอบกลับในช่วงก่อนเกิดเหตุมีลมและฝนค่อนข้างแรงจึงคาดว่าเป็นสาเหตุของการพังทรุดตัวลงมา ส่วนการขออนุญาตต่อเติมอาคารต้องขอย้อนหลังไปตรวจสอบก่อนว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่
เบื้องต้นจะเร่งให้การไฟฟ้านครหลวง และสำนักงานเขตดำเนินการรื้อถอนให้เสร็จสิ้นก่อนช่วงเช้าวันนี้ สำหรับความเสียหายเบื้องต้น พบรถยนต์จำนวน 2 ตันถูกโครงสร้างหล่นทับพังเสียหาย และทรัพย์สินราชการ ทั้งเสาไฟฟ้า กล้องวงจรปิด สายสื่อสาร และแผ่นป้าย
รถยนต์ถูกกันสาดปูน และโครงเหล็กทับเสียหาย
ด้าน พ.ต.อ.วาทิตย์ โรจนะไพฑูรย์ ผู้กำกับ สน.วัดพระยาไกร เผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนประสานเจ้าของอาคารดังกล่าวเข้าให้ปากคำ ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต้องให้หน่วยงาน หรือผู้ได้รับความเสียหายลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป เนื่องจากเป็นคดีทางแพ่ง